ที่จังหวัดยโสธรเกิดเหตุไฟไหม้บ้านของชาวบ้านกลางชุมชนภายเขตเทศบาลเมืองยโสธรซึ่งเป็นชุมชนแออัดส่งผลให้เปลวไฟลุกลามอย่างรวดเร็วและไหม้บ้านจนได้รับความเสียหาย จำนวน 2 หลัง แต่ยังโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 10 มี.ค.2565 ศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุ 191 ของตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ได้รับแจ้งว่ามีเหตุไฟไหม้บ้านของชาวบ้านโดยเหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 48/2 ตรอกศิริราช ชุมชนบ้านท่าศรีธรรม ถนนเขื่อนธานี เขตเทศบาลเมืองยโสธร จึงประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองยโสธรและจากเทศบาลตำบลใกล้เคียงเข้าช่วยกันระงับเพลิง โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูนสภาพเก่า ตั้งอยู่ภายในชุมชน พบเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านอย่างรุนแรงท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของชาวบ้านภายในชุมชน ก่อนที่เปลวเพลิงจะลุกไหม้ท่วมบ้านทั้งหลังและได้ลุกลามไปยังบ้านข้างเคียงอีก เลขที่ 48/1 ตรอกศิริราช ซึ่งเป็นบ้านสองชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูนเช่นกัน โดยเพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถดับเพลิงถึง 3 คัน เข้าระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมเปลวไฟไม่ให้ลุกลามไปยังบ้านข้างเคียงหลังอื่นอีกต่อไป โดยใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ แต่ก็ส่งผลให้เปลวเพลิงลุกไหม้เผาผลาญบ้านทั้งสองหลังจนได้รับความเสียหายทั้งหมด แต่ยังโชคดีที่เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต อย่างไรก็ตามระหว่างการดับไฟชาวบ้านได้ช่วยกันเข้าไปยกรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ภายในบ้านที่ไฟกำลังลุกลามออกมาข้างนอกได้เพียงอย่างเดียว และชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้รีบเคลื่อนย้ายสิ่งของและรถยนต์ออกจากพื้นที่เนื่องจากเกรงว่าไฟจะลุกลามเพราะชุมชนดังกล่าวเป็นชุมชนแออัดมีบ้านเรือนของชาวบ้านปลูกติดกันเป็นจำนวนมาก
นายสมชัย ชัยภูมิ อายุ 75 ปี เจ้าของบ้านต้นเพลิง บอกว่า ช่วงก่อนเกิดตนพึ่งจะทานข้าวเสร็จและกำลังเก็บจานชามไปไว้บริเวณหลังบ้านพัก ซึ่งขณะนั้นลูกของตนสาวกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำชั้นล่างของตัวบ้าน ขณะนั้นตนได้ยินเสียงดังเปาะแปะคล้ายสะเก็ดไฟแตกมาจากบริเวณชั้นสองซึ่งเป็นห้องนอนของลูกสาวพร้อมกับมีกลิ่นเหม็นไหม้ ตนจึงรีบขึ้นไปเปิดประตูห้องลูกสาวดูแล้วพบว่ามีเปลวไฟกำลังลุกไหม้ขึ้นจนเต็มห้อง ตนจึงรีบหนีลงมาพร้อมกับแจ้งลูกสาวให้ออกมาจากตัวบ้านเพื่อเอาชีวิตรอด ก่อนที่เปลวแพลิงจะลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็วและลุกท่วมบ้านทั้งหลังจนได้รับความเสียหายโดยที่ไม่สามารถที่จะนำทรัพย์สินใดๆออกมาได้แม้แต่ชิ้นเดียว จากนั้นเปลวไฟจึงลุกลามไปติดบ้านข้างเคียงอีกซึ่งเป็นบ้านญาติกัน
ขณะที่ นางหอม นิจพานิชย์ อายุ 69 ปี เจ้าของบ้านอีกหลังที่ถูกที่ไฟไหม้ เผยว่าช่วงเกิดเหตุตนอยู่ในห้องนอน และมีคนตะโกนว่าไฟไหม้ จึงลุกออกมาพอเปิดประตูบ้านก็พบว่าบ้านหลังตรงข้ามไฟกำลังลุกไหม้ที่ชั้นสอง ขณะนั้นตนถึงกับขาสั่นและกลัวมากจนก้าวเท้าไม่ได้ จึงมีเพื่อนบ้านมาช่วยพาออกจากที่เกิดเหตุ จากนั้นไฟก็ได้ลุกลามมายังบ้านของตนอย่างรวดเร็วและลุกไหม้บ้านทั้งหลังจนเสียหาย โดยตนไม่สามารถเอาข้าวของมีค่าออกมาได้แม่แต่ชิ้นเดียว
ในเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนสาเหตุที่แท้จริงนั้นจะต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดยโสธร เข้าตรวจหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ให้ชัดเจนอีกครั้งว่าเกิดจากอะไรกันแน่