เกษตรกร พ่อค้าแม่ค้า และ ปชช.ที่บุรีรัมย์ แห่ไถ่ถอนทองคำรูปพรรณแน่นโรงจำนำวันเดียวกว่า 500 ราย เพื่อนำไปขายตามร้านทองหวังกำไร ทั้งชำระหนี้และใช้จ่ายในครอบครัว หลังราคาทองพุ่งกว่า 31,000 บาท เกษตรกรถึงกับยิ้มไม่หุบบอกเป็นโอกาสทองต้องรีบไถ่ไปขาย ขณะ ผจก.เผยยอดไถ่ถอนมากกว่าจำนำเท่าตัวคาด ปชช.จะแห่มาไถ่ทองคึกคักจนกว่าราคาจะลง
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2565 บรรยากาศที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ได้มีเกษตรกร พ่อค้าแม่ค้า และประชาชนทั่วไปที่เป็นลูกค้า ได้พากันไปรอคิวไถ่ถอนทองคำรูปพรรณที่เคยจำนำเอาไว้ก่อนหน้านี้อย่างคึกคัก เพื่อนำทองที่ไถ่ดังกล่าวไปขายตามห้างร้าน เพื่อหวังกำไรหลังราคาทองพุ่งสูงถึงบาทละกว่า 31,000 บาท ทั้งนี้บางคนก็ตั้งใจจะนำเงินที่ได้จากการขายทอง ไปชำระหนี้สิน และใช้จ่ายในครอบครัวด้วย โดยวันนี้วันเดียวมียอดคนมาไถ่ถอนทองมากกว่า 500 ราย และคาดว่าหากราคาทองยังสูงแบบนี้ ก็จะมีลูกค้ามาไถ่ถอนทองที่โรงจำนำเพื่อนำไปขายตามห้างร้านคึกคักต่อเนื่องจนกว่าราคาทองจำลง
จากการสอบถาม น.ส.ณัฐทินันท์ รอบแคว้น เกษตรกรรายหนึ่งที่มาไถ่ถอนทองที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ บอกว่า วันนี้ตั้งใจนำเงินมาไถ่ถอนสร้อยคอทองคำ แหวนทอง และกำไลแขน น้ำหนักรวม 6 บาท ที่เคยจำนำไว้กับสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งตอนนั้นราคาทองอยู่ที่ประมาณบาทละ 19,000 บาท ที่ผ่านมาก็แค่มาส่งดอกตามกำหนด แต่พอช่วงนี้ราคาทองพุ่งสูงถึงบาทละกว่า 31,000 บาท จึงได้หาเงินมาไถ่เพื่อนำไปขายที่ร้านทอง เพราะหวังจะได้กำไร ทั้งจะนำเงินจากการขายทองไปใช้หนี้ และใช้จ่ายในครอบครัวด้วย ก็ถือว่าเป็นโอกาสทองของหลายๆ คน อย่างไรก็ตามเกรงว่าหากไม่ไถ่ไปขายช่วงนี้ราคาทองจะลง
ขณะที่นายอิทธิเดช ทิพยแสง ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ระบุว่า หลังจากราคาทองพุ่งสูงถึงบาทละกว่า 31,000 บาท ก็มีลูกค้าที่เคยนำทองคำรูปพรรณมาจำนำเอาไว้ พากันมาไถ่ถอนอย่างคึกคักเพื่อที่จะนำไปขายตามร้าน เพราะหวังจะได้กำไร ส่งผลให้ช่วงนี้ยอดผู้ที่มาไถ่ถอนมากกว่ายอดคนมาจำนำกว่าเท่าตัว โดยเฉพาะวันนี้วันเดียวมีคนมาไถ่ถอนทองมากกว่า 500 ราย ขณะที่ภาพรวมมียอดไถ่ถอนทรัพย์สินทุกรายการกว่า 7 ล้านบาท ขณะที่ยอดจำนำเพียง 5 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าหากราคาทองยังสูงแบบนี้ ก็จะมีลูกค้ามาไถ่ถอนทองคึกคักต่อเนื่องเช่นกัน