ขอนแก่นคาดธุรกิจประชุม-สัมมนา บูมหลังรัฐกำหนดแผนโรดแมปโควิด-19 ให้เป็นโรคประจำถิ่น “วิศว์ชนนท์” ย้ำชัดห้วงเวลาเหมาะสม ทุกคนรับมือได้ งานอีเวนท์-ประชุม-สัมมนา กลับมาคึกคักอีกครั้ง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 มี.ค.2565 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น หรือ ไคซ์ ซึ่งตั้งอยู่ ริม ถ.มิตรภาพ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายวิศว์ชนนท์ วิชัยยุทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าฯ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและส่วนงานต่างๆ เข้าทำการตรวจสอบความเรียบร้อยในการให้บริการและพบปะกับผู้มาใช้บริการของศูนย์ประชุมฯ เพื่อสอบถามความพึงพอใจและการตรวจเข้มมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามมาตรฐานความปลอดภัยสูสุด เนื่องจากศูนย์ประชุมฯยังคงมีผู้ให้ความสนใจเข้ามาติดต่อสอบถามและใช้บริการงานประชุมสัมมนาฯ,งานแสดงสินค้า รวมไปถึงงานอีเว้นท์ ประเภทต่างๆ ตามมาตรการที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ขอนแก่น กำหนด
นายวิศวชนนท์ วิชัยยุทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาต จ.ขอนแก่น หรือ ไคซ์ กล่าวว่า ขณะนี้ศูนย์ประชุมฯยังคงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและผู้สนใจติดต่อสอบถามในการขอใช้บริการและประสานงานในด้านต่างๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามความมั่นใจและความชัดเจนตามที่กระทรวงสาธารณสุขและ ศบค. กำหนดในเรื่องของแผนโรดแมปในการให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ โดยที่ขณะนี้ขั้นตอนต่างๆได้ดำเนินการไปตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งก่อให้เกิดความเชื่อใจและมั่นใจในแผนงานดังกล่าว จนทำให้การประชุมสัมนาฯ,งานแสดงสินค้า,งานแสดงนิทรรศการ หรืองานอีเว้นท์ต่างๆ โดยเฉพาะงานแต่งงาน ที่ได้กับมาคึกคักมีการประสานงานและติดต่อขอใช้พื้นที่หรือการเลือกแพคเกจต่างๆที่ศูนย์ประชุมฯนั้นได้กำหนดไว้ ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขที่ศูนย์ประชุมฯได้เน้นหนักในมาตรการดังกล่าวนี้อย่างครบถ้วน
“ ทันทีที่รัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดแผนโรดแมปและมาตรการคลายล็อคต่างๆที่ชัดเจน ประกอบกับคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อมีการประเมินสถานการณ์ทุก 14 วัน ทำให้บรรยากาศในการจัดงานต่างๆนั้นกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น หรือไคซ์ ซึ่งเป็นศูนย์ประชุมฯที่ได้มาตรฐานระดับสากล โดยมีพื้นที่ภายในศูนย์ประชุม มากถึง 7,500 ตารางเมตร และภายนอก 3,000 ตารางเมตร โดยแบ่งสัดส่วนของอาคารแสดงสินค้าออกเป็น 3 ห้องขนาดใหญ่และห้องประชุม 7 ห้อง ที่ผ่านมาได้จัดงานแสดงสินค้า,งานประชุม ละงานอีเว้นท์ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกมาแล้วในหลากหลายรูปแบบตามความต้องการของลูกค้า ภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด และด้วยศักยภาพการให้บริการที่ครบวงจร ปลอดภัย จนนำไปสู่ความมั่นใจให้กับลูกค้าได้กลับมาประสานงานขอใช้พื้นที่กันอย่างต่อเนื่องแล้วในขณะนี้”
นายวิศว์ชนนท์ กล่าวต่ออีกว่า ในปี 2564 ที่ผ่านมาจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ศูนย์ประชุมฯ ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นจุดให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและความร่วมด้วยช่วยกันในการที่จะก้าวผ่านวิกฤติเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไปด้วยกัน โดยในปีที่ผ่านมา มีลูกค้าให้บริการในรูปแบบเชิงธุรกิจเพียง 5 งานเท่านั้น แต่ในปี 2565 ผ่านมา 2 เดือน ศูนย์ประชุมฯได้ให้บริการงานประเภทต่างๆไปแล้ว 14 งาน ซึ่งศักยภาพของศูนย์ประชุมฯแห่งนี้ ตลอดทั้งปีสามารถกำหนดจัดงานทั้งภายในและภายนอกอาคารและรูปแบบต่างๆได้มากสุดคือ 250 งานต่อปี ซึ่งขณะนี้บรรยากาศดังกล่าวนั้นได้กลับมาคึกคักอีกครั้งด้วยความสะดวก สบายทั้งสถานที่จอดรถ พื้นที่อาคารที่โปล่ง โล่งสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆที่ครบครัน ทำให้แผนงานในปีนี้ ศูนย์ฯได้ปรับรูปแบบการให้บริการในทุกรูปแบบ ตามความต้องการของลูกค้า ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยทั้งในเรื่องของการตรวจคัดกรองคนเข้าบริเวณงานและการให้บริการด้านสาธารณสุขต่างๆ โดยเฉพาะการประชุมฯ ที่ศูนย์ฯสามารถให้บริการห้องประชุมได้ตั้งแต่ 30 คนขึ้นไป โดยมั่นใจว่าด้วยมาตรการที่ผ่อนคลายและแผนโรดแมปที่กำหนด ผนวกกับความคุ้นชินในการป้องกันตนเองและการใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่นิวนอมอล จะทำให้บรรยากาศในการประชุมสัมมนา,งานแสดงสินค้า,การจัดงานแต่งงาน,รวมไปถึงงานอีเว้นท์ต่างๆ จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง