เมื่อเวลา16.30 น. วันที่ 15 มีนาคม 2565 ร.ต.อ.นราศักดิ์ นันทบุตร รอง สารวัตร สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ มีคนถูกยิงเสียชีวิต ที่กระท่อมนา ท้ายบ้านจำปา หมู่ 7 ต.หนองนาคำ จึงได้รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี อุดรธานี พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม
ในที่เกิดเหตุเป็นเถียงนาปลูกเป็นเพิงพักมุงด้วยสังกะสี ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบศพนายพิเชษฐ์ ตาวะสุข อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ 7 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ถูกยิงเสียนอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ที่พื้น สภาพศพสวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีเทา พบมีดพร้า 1 เล่ม มีดดายหญ้า 1 เล่ม มีดทำครัว 2 เล่ม รวม 4 เล่มวางอยู่ข้างศพ ตำรวจเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังพบจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ของผู้ตายจอดห่างจากศพประมาณ 50 เมตร จากการชันสูตรพบถูกยิงบริเวณชายโครงด้านซ้ายทะลุเอวขวา ต้นแขนซ้ายทะลุ
ส่วนมือยิงคือนายนาวา ตาวะสุข อายุ 72 ปี พ่อผู้เสียชีวิต นั่งอยู่บนเถียงนารอมอบตัวกับตำรวจพร้อมอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ตรวจพบกระสุนในลูกโม่ 1 นัด ปลอกกระสุน 4 นัด จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน โดยนายนาวา ให้การว่า ตนเป็นคนยิงลูกชายเอง เพราะลูกถือมีดมาจะฟันตนจึงป้องกันตัว ซึ่งก่อนเกิดเหตุ ขณะอยู่บ้านสวนตนบอกให้ผู้ตายไปซ่อมแซมเถียงนา ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร แต่ผู้ตายเถียงตนบอกว่าไม่ทำ ทำให้ทะเลาะมีปากเสียงกัน ผู้ตายถือมีดจะเข้ามาทำร้ายตน จึงตัดปัญหาด้วยการขี่รถจักรยานยนต์หนีมาเลี้ยงควาย 10 กว่าตัวอยู่ทีนี่ ซึ่งเป็นที่เลี้ยงควายประจำของคน ไม่นานผู้ตายก็ขี่จักรยานยนต์ตามมา พร้อมกับถือมีดจะมาฟัน ตนจึงตัดสินใจยิงปืนออกไปป้องตัว 2 นัด จนผู้ตายล้มลง
“ไม่รู้ว่าลูกเมาเหล้า หรือเมายาบ้า แต่รู้สึกเสียใจ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็ไม่รู้จะบอกอะไรลูก เพราะลูกมีแต่จะฆ่าตน ลูกชอบอาละวาด ข่มขู่พ่อแม่ เมื่อลูกถือมีดตามมาฟัน ก็ต้องตัดสินใจยิงปืนออกไปแบบมั่วๆ เพราะตนไม่ใช่นักแม่นปืน ยิงออกไป 2 นัดเพื่อขู่ให้หยุดและเพื่อป้องกันตัว”
ส่วนนางกาบ ตาวะสุข อายุ 70 ปี แม่ผู้ตาย และภรรยามือปืน เล่าว่า ตนมีลูก 3 คน คนตายเป็นคนที่ 2 มีโรคประจำตัวลมชัก ผู้ตายไม่ทำงาน ชอบเมาและเสพยาบ้าและไม่ทำงาน เวลาพ่อแม่บอกหรือสอนพูดอะไรผิดใจ ก็มักจะอาละวาดขู่จะฆ่า เป็นเช่นนี้มานานกว่า 10 ปี ก่อนเกิดเหตุพ่อแม่บอกให้ผู้ตายไปซ่อมเถียงนา ทำให้ผู้ตายไม่พอใจจนมีปากเสียงกับพ่อ สุดท้ายพ่อก็ต้องขี่รถจักรยานยนต์หนีไปมาเลี้ยงควายที่ทุ่งนา ตนก็ออกมาเลี้ยงควายด้วย เห็นผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ตามพ่อมา ก็พบลูกถือมีดวิ่งใส่พ่อ ทำให้พ่อต้องตัดสินใจหยิบเอาปืนออกมาหลับตายิงเพื่อป้องกันตัว รู้สึกเสียใจ เพราะอยากให้ลูกเป็นคนดี แต่ลูกเป็นคนดีไม่ได้ ซึ่งพ่อก็ไม่เคยคิดจะฆ่าลูก
นางจันทร์ อายุ40ปี น้องสาวผู้ตายและลูกผู้ต้องหา เล่าว่า พี่ชายมีโรคประจำตัวลมชัก ไม่มีงานทำ มีนิสัยชอบอาละวาด โวยวาย โมโหร้าย ตนให้พี่ชายอยู่กับพ่อแม่ แต่พอพ่อแม่บอกให้ทำงาน ก็มักจะอาละวาด โมโหร้าย แม้แต่ชาวบ้านก็อาละวาด ถ้าพูดผิดใจก็จะฆ่าพ่อแม่ ซึ่งตนเป็นคนดูแลเลี้ยงดูและให้เงินพี่ชายใช้จ่าย ถ้าพ่อไม่ยิงพี่ชาย พ่อก็จะถูกพี่ชายฆ่าตาย ซึ่งตนรู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ผู้ตายทะเลาะกับพ่อ ซึ่งพ่อได้หนีออกมาเลี้ยงควาย แต่ผู้ตายถือมีดตามมาเพื่อจะทำร้ายระยะ 3-5 เมตร พ่อจึงยิงในระยะประชันชิด ซึ่งพนักงานสอบสวนจะต้องดูว่า เป็นลักษณะเป็นการป้องกันตัวหรือไม่ โดยก็จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี ต่อไป