ข่าวอัพเดทรายวัน

กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเข้าคารวะผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์

กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเข้าคารวะผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ในโอกาสเข้าดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม จังหวัดขอนแก่น พบปะสานสัมพันธไมตรีระหว่างกัน


เมื่อวันที่14 มีนาคม 2565 ที่ ห้องแพรวา ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นาย จู ดึ๊ก สุง กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม จังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะ เข้าพบ นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ในโอกาสได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม จังหวัดขอนแก่น

นาย จู ดึ๊ก สุง กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ตนเอง เคยเดินทางมายังจังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสาน หลายครั้ง และมีความประทับใจทั้งในมิตรไมตรีของประชาชนในประเทศไทย อีกทั้งวิถีชีวิตที่มีวัฒนธรรมที่งดงาม ประเพณีที่สืบทอดมาช้านาน ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในพื้นที่ภาคอีสาน ที่น่าสนใจ ซึ่งความเป็นมิตรของประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้มีความสุข และประทับใจทุกครั้งที่มีโอกาสมาเยี่ยมเยือน โดยที่ผ่านมาได้ทำการประชาสัมพันธ์ถึงแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั้งในจังหวัดกาฬสินธุ์ และ จังหวัดใกล้เคียง ให้ประชาชนชาวเวียดนามได้รับทราบมาโดยตลอด ซึ่งการท่องเที่ยวทั้งของชาวเวียดนามและชาวไทย ถือว่ามีความนิยมเป็นอย่างสูง

นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ สมาคมชาวเวียดนามจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ให้การต้อนรับ พร้อมพูดคุยในการสานสัมพันธไมตรี โดยจังหวัดกาฬสินธุ์ มีครอบครัวชาวไทยเชื้อสายเวียดนามอยู่ประมาณ 100 กว่าครัวเรือน ซึ่งถือว่าระหว่างประเทศไทยและประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน ภูมิประเทศติดกัน มีความสัมพันธ์มาช้านาน โดยประชาชนมีความคุ้นเคยและวิถีชีวิตที่ใกล้เคียงกัน ตลอดมีการเดินทางไปหาสู่ระหว่างกันบ่อยครั้ง หากแต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เกิดการชะงักไป อย่างไรก็ตามเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทั้งประเทศไทย และ เวียดนาม พร้อมและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่พร้อมต้อนรับนักเดินทางทั้ง 2 ประเทศ เนื่องจากปัจจุบันการเดินทางสามารถเดินทางได้หลายรูปแบบ โดยเฉพาะเส้นทางคมนาคม เส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ (East-west Economic Corridor) ที่เชื่อมต่อโดยตรง ทั้งจังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดมุกดาหาร เส้นทางขนส่งตามแนวตะวันออก – ตะวันตกกับประเทศเพื่อนบ้านระหว่าง สหภาพเมียนมาร์–ไทย–สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว-ประเทศเวียดนาม มีระยะทางประมาณ 36 กิโลเมตร ทำให้การเดินทางมีความสะดวกสบาย รองรับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจระหว่างประเทศได้เป็นอย่างดี