ข่าวอัพเดทรายวัน

อุบลราชธานีพริกบ้านหัวเรือ สร้างรายได้ให้คนในชุมชนอย่างยั่งยืน

อุบลราชธานี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หนุนพริกบ้านหัวเรือ ส่งออกต่างประเทศ หวังสร้างรายได้ให้คนในชุมชนอย่างยั่งยืน

เมื่อพูดถึงพริกบ้านหัวเรือ ตำบลหัวเรือ หลายคนจะรู้จักในเรื่องของความเผ็ด มีขนาดใหญ่ กลิ่นหอม ผลแก่มีสีแดงสด เป็นที่นิยมมากและจำหน่ายไปทั่วประเทศ และพริกบ้านหัวเรือปลูกและเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี สามารถสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชนได้อย่างยั่งยืน ชาวบ้านในชุมชนมีความสุข ได้อยู่กับครอบครัวโดยที่ไม่ต้องไปทำงานต่างจังหวัด
ทางองค์การบริหารส่วนตำบลหัวเรือ นำโดยนางประภาพร เลาหวะนิช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหัวเรือคนใหม่ ได้มีการสนับสนุน และส่งเสริมในการเพิ่มประสิทธิภาพการปลูกพริกมีการจัดฝึกอบรมให้ความรู้ให้แก่เกษตรกรปลูกพริกที่ปลอดสารพิษ และมีคุณภาพ ซึ่งในตำบลหัวเรือแห่งนี้มีเกษตรกรที่ปลูกพริกจำนวนกว่า 1,000 ไร่

นางประภาพร เลาหวะนิช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหัวเรือ กล่าวว่า ก่อนที่จะรับตำแหน่งนายก อบต.หัวเรือ ตนเองได้มีการส่งเสริมเรื่องของการปลูกพริกมาโดยตลอด ประกอบกับตนเองก็ได้มีการทำสวนพริก เพื่อทำเป็นตัวอย่าง และให้เกษตรกรมาศึกษาดูงาน เพื่อนำไปพัฒนาให้ได้ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันพริกหัวเรือส่งขายในตัวจังหวัด และต่างจังหวัด เช่น ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กรุงเทพ มีตลาดไท ปากคลองตลาด ราชบุรี นครปฐม กระจายไปทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศมาเลเซีย จีน และญี่ปุ่น ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมาก

นายก อบต.เพิ่มเติมว่า หากเปรียบเทียบกับการปลูกข้าว ปลูกพริกจะให้ผลผลิตดีกว่า เนื่องจากข้าวเก็บเกี่ยวได้ครั้งเดียว ส่วนการปลูกพริก จะสามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี จะเริ่มเก็บมาตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน ไปจนถึงเดือนมิถุนายน ในส่วนของราคาพริก ช่วงต้นปีราคากิโลกรัมละ 80บาท ปีที่แล้วมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 167 บาท ที่ราคาสูงก็เนื่องจากออกก่อนฤดู คือเดือนตุลาคม เพราะพื้นที่ในการปลูกพริกไม่มี ส่วนมากจะทำนา ถ้าเกษตรกรที่ปลูกพริกได้ก่อนจะได้ราคาดี
ปล่อยสัมภาษณ์ นางประภาพร เลาหวะนิช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหัวเรือ

ด้านนายสิทธิพล เลาหวะนิช รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ตนเองได้ดำเนินการตั้งโรงงานคัดแยกพริกเพื่อคัดเลือกพริก ซึ่งจะแยกเป็นพริกดิบ คือ สีเขียว และพริกสุก คือ สีแดง มีการคัดเอาพริกที่เน่าเสีย เป่าเอาใบพริกออก เพื่อคัดเอาเมล็ดที่ดีมีคุณภาพเพื่อส่งออก ซึ่งพริกหัวเรือจะส่งไปทั่วประเทศ และนอกจากนี้ยังส่งพริกออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศคือ มาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น ประมาณวันละ 10 ตัน หรือ 10,000 กิโลกรัม ในช่วงโควิดระบาดจะมีผลกระทบในการส่งไปขายในประเทศเนื่องจากตลาดบางแห่งปิด ร้านค้าต่างๆ ปิด แต่ในต่างประเทศยังไม่ได้รับผลกระทบมีการขนส่งทุกวัน เนื่องจากต่างประเทศไม่สามารถปลูกพริกได้ ต้องนำเข้าจากไทย

ในส่วนของการเก็บพริกไว้จำหน่ายหากชาวบ้านเก็บพริกมาส่งให้ที่โรงงานเป็นจำนวนมาก จะมีการนำพริกไปเก็บไว้ที่ห้องเย็น อุณหภูมิ ที่ 2 องศาเซลเซียส เพื่อรักษาคุณภาพของพริกไว้ให้เหมือนเดิม เมื่อมีลูกค้าต้องการเพิ่มก็จะนำออกมาจำหน่ายได้

รองนายก อบจ.เพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีความต้องการเกษตรกรที่ปลูกพริกนำพริกมาส่งเพื่อ่ออกไปจำหน่าย ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดมาก เนื่องจากพริกหัวเรือเป็นพริกที่เม็ดใหญ่ สีสดมีความหอม มีความเผ็ดพอดี ทังนี้ทาง อบจ.อุบลราชธานี จะได้ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพริก เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคง หากใครสนใจสามารถมาสอบถามเข้าร่วมโครงการได้ที่โรงงาน หรือสอบถามได้โดยตรง จะมีการให้ความรู้ มีเมล็ดพันธุ์ให้ไปปลูก แนะนำวิธีการปลูกให้อีกด้วย