นพ.สสจ.ศรีสะเกษ พร้อมจัดงานการประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 10 หายเจ็บ หายจน รวมพล คนรักกัญ แบ่งพื้นที่จัดงาน 3 โซนใหญ่เพื่อให้ความรู้ ตรวจรักษาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกัญชาอย่างเต็มที่
เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อาคารสถาบันภาษา ศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นพ.สสจ.ศรีสะเกษ ได้นำคณะแพทย์ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์สังกัดสำนักงานสาธารณสุข จ.ศรีสะเกษ มาทำการจัดเตรียมสถานที่แห่งนี้ เพื่อที่จะใช้บริเวณนี้ในการจัดงานการประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 10 (ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ มุกดาหาร) “เขตสุขภาพที่ 10 หายเจ็บ หายจน รวมพล คนรักกัญ” ซึ่งกำหนดจัดงานนี้ขึ้นในระหว่างวันที่ 8 – 10 เม.ย. 65 โดยมีการจัดแบ่งพื้นที่ออกเป็นโซนต่าง ๆ อย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้มาร่วมกิจกรรมสามารถที่จะไปเลือกศึกษาหาความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับกัญชาได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งมีการจัดโซนในการตรวจรักษาพยาบาลผู้ป่วยที่ต้องมารักษาโรคด้วยกัญชาอีกด้วย ซึ่งคณะทำงานทุกคนได้เร่งดำเนินการจัดเตรียมงานกันอย่างเต็มที่
นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นพ.สสจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้การเตรียมการจัดงานก็ได้มีการเตรียมการไปแล้วพอสมควรทีเดียว วันนี้ก็ได้ลงจัดเตรียมสถานที่ต่างๆเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมโดยกำหนดจัดงานในวันที่ 8 – 10 เม.ย. 2565 ซึ่งไฮไลท์จะอยู่ที่วันที่ 9 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่ ฯพณฯ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน ซึ่งช่วงแรกกำหนดไว้ว่าจะมีการเปิดงานในวันที่ 8 เม.ย. 65 แต่เนื่องจากว่ามีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ จึงได้เลื่อนมาเป็นวันที่ 9 เม.ย. แทน ส่วนวันที่ 8 เม.ย.ก็มีกิจกรรมต่างๆตามปกติ โดยจะมีการประชุมทางวิชาการ และมีการเสวนาเรื่องกัญชา ซึ่งจริงๆแล้วการเสวนาจะมีทุกวัน การเสวนานี้จะมีผู้เข้าร่วมเสวนามาจาก ผอ.สถาบันกัญชาและมาจากกรมต่างๆเช่น กรมการแพทย์แผนไทย เป็นต้น
นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นพ.สสจ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า ซึ่งในการจัดงานนี้จะแบ่งเป็น 3 โซนด้วยกัน โดยโซนแรกจะเป็นโซนวิชาการ จะเป็นการประชุมทางวิชาการและการเสวนาซึ่งการเสวนาก็จะมีทั้งวิชาการแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนไทยและการเสวนาภาคประชาชนโดยภาคประชาชนจะเป็นกูรูหรือผู้เชี่ยวชาญจะมาเสวนาและสาธิตการปลูกกัญชาหรือพูดเรื่องกฎหมายทางด้านกัญชา จะมาพูดในเรื่องของการแปรรูปกัญชาผลผลิต ที่มาจากกัญชาเพื่อนำออกไปจำหน่ายสู่ท้องตลาด เพราะชื่อการจัดงานของเรา concept ก็คือหายเจ็บ หายจน รวมพล คนรักกัญ หายเจ็บก็คือกัญชาสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคได้ หายจนก็คือกัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจซึ่งสามารถที่จะมาทำเป็นรายได้ขึ้นมาได้ เช่นต้องการปลูกขายเมล็ดพันธุ์ และการแปรรูปผลิตภัณฑ์กัญชา ส่วนรวมพลคนรักกัญก็คือคนที่สนใจเรื่องกัญชา คนที่มีความชื่นชอบหรือสนใจใคร่รู้เรื่องกัญชาเราก็มารวมกันเพื่อที่จะมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน โซนที่2 ก็คือโซนนิทรรศการก็จะมีการจัดบูธไม่ต่ำกว่า 30 บูธขึ้นไป ก็จะเป็นบูธของส่วนกลางเช่นจากกรมต่างๆ กรมการแพทย์แผนไทย อย. ที่จะมีเรื่องเกี่ยวกับกัญชามาแสดงให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ รวมทั้งมาจากวิสาหกิจชุมชนซึ่งเป็นคนบ้านเรานี่แหละก็จะมาทำการเปิดบูธแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกัญชาเช่นกันเดียวกัน เช่นบริษัทเอกชนหรือวิสาหกิจชุมชนที่ได้ทำการปลูกกัญชาสำเร็จแล้วและงอกงามดี ก็จะมีการนำเอาต้นกัญชงหรือต้นกัญชามาโชว์ให้ชมว่าปลูกได้งอกงามเพียงใด เพื่อให้ผู้ที่มาร่วมชมนิทรรศการการได้มีโอกาสสัมภาษณ์หรือสอบถามหาความรู้ได้ว่าปลูกยังไง เคยซื้อไปปลูกแล้วทำไมปลูกไม่ได้ไม่ขึ้น ปลูกอย่างไรมีเทคนิคอย่างไรก็จะได้เรียนรู้กันไป
นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นพ.สสจ.ศรีสะเกษ ยังกล่าวด้วยว่า ต่อมาจะเป็นโซนที่ 3 คลินิกกัญชาก็คือจะเป็นคลินิกให้บริการรักษาผู้ป่วยและจ่ายยากัญชาให้ มีทั้งแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบันซึ่งปกติก็จะมีคนไปรับบริการได้เช่นปวดหัวเป็นไมเกรนหรือว่า บางคนเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย บางคนถ่ายไม่ออก นอนไม่หลับ เมื่อเข้ามาในงานนี้แพทย์ก็จะได้ทำการตรวจรักษา ก็จะได้จัดยาที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม เช่นนอนไม่หลับ เราก็จะให้ยาสุขไสยาศน์ไปกิน เมื่อกินแล้วจะหลับดี หรือว่าถ่ายไม่ออกเราก็จะจัดยาทำลายพระสุเมรุไปให้กิน และหากเป็นแพทย์แผนปัจจุบันเราก็จะมีน้ำมันเดชาหรือน้ำมันกัญชาให้ไปหยดใต้ลิ้นเป็นต้น โดยจะมีการตรวจรักษาพยาบาลหรือรวมทั้งให้การแนะนำในการใช้ยาที่ผลิตจากกัญชาด้วย ซึ่งจริงๆแล้วกัญชาเรารับรู้ว่ามีการใช้อย่างแพร่หลาย แต่ว่าที่ผ่านมามีการใช้กัญชาอย่างไม่ถูกต้องไม่ได้อยู่ในความควบคุมของแพทย์ บางครั้งหยดใต้ลิ้นไปเอามาจากไหนก็ไม่รู้บางครั้งก็ซื้อมาจากใต้ดินมาหยด ก็ไม่รู้ว่าจะต้องหยดขนาดไหน และทำให้มีปัญหาคือโอเวอร์โดสมันเยอะเกินซึ่งหากมาตรวจที่ในงานนี้จะอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ที่จะแนะนำว่า ยาแบบนี้ใช้อย่างไร จำนวนเท่าใดจึงจะปลอดภัย แต่ขณะเดียวกันเราก็มีหน่วยปฐมพยาบาล อยู่ในงานด้วย เพราะว่าเคยมีกรณีที่ในการจัดงานมหกรรมกัญชาที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยผู้ที่มาร่วมงานไปบูธต่าง ๆ แล้วได้ชิมผลิตภัณฑ์จากกัญชาซึ่งมีหลากหลายทำให้เกิดโอเวอร์โดสเขาจะต้องมาทำการรักษาพยาบาลกับเรา จึงต้องมีหน่วยปฐมพยาบาลไว้คอยดูแลกลุ่มนี้ที่ได้รับผลิตภัณฑ์จากกัญชาเกินขนาด เพราะว่าเมื่อมีคนมาร่วมงานเยอะผู้ที่มาแสดงนิทรรศการก็อยากแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกัญชา ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ได้จ้างออกาไนซ์ซึ่งส่วนใหญ่ออกาไนซ์ก็จะมีต้นตำรับมาจากส่วนกลาง โดยที่เคยมีการจัดงานมหกรรมกัญชาที่ จ.บุรีรัมย์ มาก่อน อย่างเช่นบริษัทเพลาเพลิน ของบุรีรัมย์ก็มีการปลูกกัญชาอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ก็จะมีการมาจัดบูธแสดงผลิตภัณฑ์และจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกัญชารวมทั้งบริษัทเอกชนและวิสาหกิจของศรีสะเกษก็จะมาร่วมจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากกัญชาในครั้งนี้ด้วย
ทางด้าน นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จ.ศรีสะเกษของเรามีความพร้อมและมีความยินดีที่เราจะได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพในการจัดงานการประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 10 ในวันที่ 8 – 10 เมษายน 2565 ที่จะถึงนี้ ตนขอยืนยันว่า จ.ศรีสะเกษ ของเรามีความพร้อมอย่างเต็มที่ อย่างที่ทราบกันดีนะว่า เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จ.ศรีสะเกษ ก็ได้แสดงศักยภาพให้ทั่วประเทศได้ประจักษ์แล้วว่าเราสามารถดำเนินการจัดงานการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 “ศรีสะเกษเกมส์” ให้เป็นไปอย่างเรียบร้อยด้วยดี ภายใต้ความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งส่วนราชการในทุกๆ กระทรวง ส่วนของเอกชน และประชาชน ตามนโยบาย “อะไรๆ ก็ดี ที่ศรีสะเกษ” ของเรา ก็น่าจะพอยืนยันได้แล้วว่าเราพร้อมสำหรับทุกโอกาสที่ได้รับจริงๆ และครั้งนี้ก็เช่นกัน สำหรับสถานที่การจัดงานในครั้งนี้เราได้รับความอนุเคราะห์จาก มหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ ซึ่งมีอาคารสถานที่ที่เป็นสถาปัตยกรรมใหม่ๆ หลายอาคารด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์รับการจัดงานสำคัญๆ อยู่เรื่อยๆ ทั้งงานระดับประเทศและระดับจังหวัด ซึ่งในครั้งนี้เราเลือกเป็นอาคารสถาบันภาษา ศิลปะและวัฒนธรรม ที่มีรูปลักษณ์ที่สวยงามและทันสมัย และมีในส่วนของห้องประชุมและพื้นที่ใช้สอยที่สามารถรองรับในทุกกิจกรรมของงานครั้งนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็น ห้องศรีพฤท เธศวรเธียร์เตอร์ ที่สามารถจุคนได้เต็มที่ถึง 1,550 คน ซึ่งเราจะใช้ ในพิธีเปิดงานในวันเสาร์ที่ 9 เม.ย. 2565 ห้องประชุมย่อยต่างๆ ที่จะใช้ในจัดการประชุมวิชาการและรับรองแขกผู้มีเกียรติรวมทั้งสื่อมวลชน เช่น ห้องราชมรรคา ห้องวิเศษสีหนาถ ห้องวิเศษชัยชาญ เป็นต้น พื้นที่ใช้สอยกว้างขวางหลายจุด ที่สามารถใช้จัดนิทรรศการได้ถึง 50 นิทรรศการ นอกจากนี้ยังมีบริเวณจอดรถที่กว้างขวางและหลายจุด สามารถรองรับรถได้มากกว่า 250 คัน ด้วยกัน
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า ซึ่งจากนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดให้มีการนำเอากัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่ง จ.ศรีสะเกษก็ได้มีการส่งเสริมในเรื่องการให้บริการด้านการตรวจรักษา และให้คำปรึกษาด้านการใช้กัญชาทางการแพทย์ โดยสนับสนุนให้มีการเปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์แบบบูรณาการในโรงพยาบาลทุกแห่ง เน้นในเรื่องของการติดตามความปลอดภัยในการใช้กัญชาในการรักษาโรคและให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วย นอกจากนี้ จ.ศรีสะเกษยังส่งเสริมในเรื่องของการผลิต โดยให้มีการปลูกกัญชาในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งทางวิสาหกิจชุมชนร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลได้ดำเนินโครงการปลูกกัญชาในพื้นที่เพื่อส่งผลผลิตให้กับทางกรมการแพทย์แผนไทยในการนำไปผลิตตำรับยากัญชาต่อไป นอกจากนี้ ยังมีต่อยอดความสำเร็จในรูปแบบการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และจากทั้งหมดนี้ก็น่าจะสามารถพูดได้ว่า จ.ศรีสะเกษมีการดำเนินงานทั้งในส่วนต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ที่จะสามารถขับเคลื่อนนโยบายนี้เพื่อการสร้างสุขภาพที่ดีพร้อมกับการสร้างเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ให้กับประชาชนชาวศรีสะเกษต่อไป///////////
ภาพ /ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ