ข่าวอัพเดทรายวัน

ขอนแก่นชาวบ้านบุกศาลากลางรวมตัวยื่นหนังสือขอความชัดเจนเงินเยียวยาหลังจากน้ำท่วมบ้านปี 2564

ชาวบ้านถาวร –บ้านโนนตุ่น บุกศาลากลางรวมตัวยื่นหนังสือถึง รมว.มหาดไทย ผ่าน ผวจ.ขอนแก่น ขอความชัดเจนเงินเยียวยาหลังจากน้ำท่วมบ้านปี 2564 หายไปไหน ป่านนี้ยังไม่ได้รับเลย

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 11 เมษายน 2565 ด.ต.บุญเหลือ แก่งสันเที๊ยะ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 ขอนแก่น พรรคเสรีรวมไทย พร้อมชาวบ้านบ้านถาวร และบ้านโนนตุ่น หมู่ 15 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ประมาณ 30 คน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเกิดอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ เมื่อปี 2564 มายื่นหนังสือถึง พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ผ่าน นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น ที่หน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น โดยมี ป้ายข้อความว่า “น้ำท่วมบ้านถาวร – บ้านโนนตุ่น เงินเยียวยาหายไปไหน ผวจ.ขอนแก่น ตอบด้วย” “เงินเยียวยายังไม่ได้รับเลย น้ำท่วมรอบสองมาอีกแล้ว”
โดยมี น.ส.ธนียา นัยพินิจ รอง ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายประจวบ รักษ์แพทย์ นายอำเภอเมืองขอนแก่น มารับหนังสือ พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่นมาดูแลความสงบเรียบร้อย

ด.ต.บุญเหลือ แก่งสันเที๊ยะ แกนนำผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่บ้านถาวร –บ้านโนนตุ่น เมื่อปี 2564 บอกว่า เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 64 เวลา 05.30 น.ได้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ที่หมู่บ้านทั้งสองหมู่บ้านประมาณ 200 หลังคาเรือน ซึ่ง พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รวม.มหาดไทย พร้อมคณะก็ยังได้ไปเยี่ยมแจกถุงยังชีพ นับตั้งแต่วันนั้นมาจนถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบครึ่งปีแล้ว ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเงินเยียวยา ซึ่งเอกสารหลักฐาน กรอกความเสียหายก็ส่งไปให้ทั้งหมดแล้ว ผู้ได้รับผลกระทบได้ไปติดตามทวงถามจากทางจังหวัดก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนเลย ดังนั้นในวันนี้พวกเราซึ่งเป็นตัวแทนจึงพากันเดินทางมาพบ ผวจ.ขอนแก่น ยื่นหนังสือถึง รมว.มหาดไทย เพื่อขอให้ช่วยเหลือเงินเยียวยาสมควรแก่เหตุความจริงโดยด่วน

นางสาวธนียา นัยพินิจ รอง ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า จากการรายงานของทางเทศบาลตำบลเมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น ทราบว่า ได้มีการสำรวจความเสียหายเรียบร้อยแล้ว และได้ส่งเรื่องมายังจังหวัดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งความล่าช้าที่เกิดขึ้นเกิดจากความล่าช้าในการสำรวจความเสียหาย เพราะการเบิกจ่ายเงินทางราชการจะต้องมีความถูกต้องแม่นยำ จึงทำให้การดำเนินการค่อนข้างช้า อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันนี้ทางคณะกรรมการฯ จะมีการประชุมเพื่อสรุปรายละเอียด จากนั้นจะส่งเรื่องไปที่กระทรวงฯ เพื่อเบิกเงิน คาดว่าไม่น่าจะเกิน 2 เดือน ชาวบ้านจะได้รับเงินเยียวยาดังกล่าว โดยการเยียวยาจะขึ้นอยู่กับความเสียหายที่เกิดขึ้นของแต่ละครัวเรือน