เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 เมษายน 2565 นายเกรียงไกร ไทยอ่อน อายุ 59 ปี สมญานักรบด่านเถื่อน อยู่เลขที่ 79 ม.5 ต.กุดดู่ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี แจ้งความส่งเรื่องแจ้งข้อมูลทุจริตผ่านไปถึง ประธานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ให้มีการสอบสวนเอาผิดกับ 1.นายกเทศบาลนครอุดรธานี , 2.คณะกรรมการจัดทำข้อกำหนดและขอบเขตจัดจ้างเอกชนเก็บขนขยะ , 3.คณะกรรมการกำหนดราคากลาง และ 4.คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง ตามคำสั่ง ทน.อุดรธานี เลขที่ 3302
นายเกรียงไกร ไทยอ่อน ได้ส่งมอบเอกสาร 2 เล่ม ไว้กับพนักงานสอบสวน ประกอบด้วย เล่มที่ 1 เป็นคำร้องข้อกล่าวหา 86 แผ่น และเล่มที่ 2 เป็นเอกสารหลักฐาน 137 แผ่น พร้อมแจ้งว่าเมื่อกันยายน 2564 นายกเทศบาลนครอุดรธานี กับพวก ได้ร่วมกันจัดจ้างเอกชนในการเก็บขยะมูลฝอยในเขต ทน.อุดรธานี ปีงบประมาณ 2565 โดยมีเจตนาไม่ปฏิบัติตามวิธีจัดซื้อโดยวิธี“เชิญชวน” ตามมาตรา 65 แห่ง พรบ.จัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ที่กำหนดเงื่อนไขและการจัดซื้อไว้ตามลำดับ แต่กลับมีเจตนาหลีกเลี่ยงไปจัดซื้อโดยวิธี “คัดเลือก” ซึ่งมีงบประมาณสูงถึง 60,560,000 บาท กล่าวหาในฐานความผิดมาตรา 157
นายเกรียงไกร ไทยอ่อน ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ที่มาแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี เนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผู้ประสงค์ดี ในเรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบในการปฏิบัติหน้าที่ ของนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี เกี่ยวกับเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ที่จริงแล้วตนเองเป็นคน จ.หนองบัวลำภู แต่ที่มาแจ้งความเรื่องของอุดรธานี มันเป็นเรื่องแปลก แต่เนื่องจากเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก เพราะฉะนั้นแรงเสียดทานมันจึงสูง หมวกอีกใบที่ใส่อยู่คือประธานมูลนิธิต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบที่อยู่ในเพจเฟซบุ๊ค หลังจากได้รับมอบเอกสาร และพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องไม่ธรรมดา มีตัวละคร มีการวางแผน มีการร่วมกันกระทำความผิด ทั้งเจ้าหน้าที่และบุคคลภายนอก ให้ได้มาที่เป็นงานในครั้งนี้
“ เรื่องนี้บุคคลภายนอกไม่มีทางรู้ ว่าการจัดซื้อจัดจ้างมันมีความผิดอะไรยังไงบ้าง ถ้าคนข้างในไม่ได้เอาเอกสารมาให้ผม ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว โดยเป็นการกล่าวหานายกฯ กับพวก ทั้งหมดกระทำความผิดในฐาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ส่วนเรื่องเอกสารนั้น ใช้เวลาศึกษาข้อมูลทั้งหมด 2 เดือน ปรากฎว่าเรื่องต่างๆ เงินจำนวนขนาดนี้ เป็นอย่างนั้นจริง จริงๆชาวอุดรฯต้องมาขอบคุณผม เพราะผมออกมารักษาผลประโยชน์ตรงนี้ให้ เป็นการช่วยในการประหยัดงบประมาณ ”
พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า นายเกรียงไกร ไทยอ่อน ได้แจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อให้ส่งต่อไปให้ ปปช.พิจารณา โดยประสงค์จะส่งเป็นเอกสาร ไม่ประสงค์จะให้สอบปากคำ พนักงานสอบสวนจะต้องลงประจำวันไว้ ก่อนจะส่งมอบเอกวสารให้ ปปช. ภายใน 30 วัน ซึ่งเมื่อนายเกรียงไกรฯ เตรียมเอกสารขเอมูลมาแล้ว และไม่ประสงค์จะให้ปากคำเพิ่ม สภ.เมืองอุดรธานี ก็จะส่งเรื่องไปยัง ปปช.ได้ภายในสัปดาห์นี้
ขณะที่ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ประสานไปยังนายพูนเกียรติ พุทธรักษ์ เลขานุการนายกเทศมนตรี เพื่อขอเข้าพบนายธนดร พุทธรักษ์ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี สอบถามเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้น ซึ่งได้รับแจ้งว่า นายกเทศมนตรีติดภารกิจอยู่นอกสถานที่ ไม่ได้อยู่ในสำนักงาน จะนำเรียนเรื่องนี้ในภายหลัง เบื้องต้นทางนายกเทศมนตรียังไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ยังไม่มีรายละเอียดว่าถูกกล่าวในเรื่องใด จึงยังไม่สามารถชี้แจงได้ หากได้ข้อมูลที่ครบถ้วนแล้ว จะประสานกลับมาเพื่อทำการชี้แจงทุกกรณีอีกครั้ง