ข่าวอัพเดทรายวัน

อดีตนายก อบจ.นครพนม ยืนยันเลือกตั้งตัวแทนพรรคเพื่อไทย เขต 4 ไม่ซ้ำซ้อนชอบด้วยกฎหมาย ชี้ไม่ต่อสมาชิกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.มีสิทธิ์ปิ๋วลงสมัครไม่ได้

วันที่ 21 เมษายน 2565 ดร.สมชอบ นิติพจน์ อดีตนายก อบจ.นครพนม ในฐานะแกนนำครอบครัวเพื่อไทย เขต 4 นครพนม เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากนายไสว พลชัย อดีตตัวแทนพรรคเพื่อไทยประจำจังหวัดนครพนม เขตเลือกตั้งที่ 4 ประกอบด้วย อ.นาแก,วังยาง และ อ.ปลาปาก ออกมาเปิดเผยผ่านสื่อว่า ในการเปิดประชุมเลือกตั้งตัวแทนพรรคเพื่อไทย ประจำจังหวัดนครพนม เขตเลือกตั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ณ บ้านเลขที่ 222 หมู่ 13 ต.ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม นั้น โดยระบุว่าเป็นการเลือกตั้งตัวแทนพรรคเพื่อไทย ประจำจังหวัดนครพนม เขตเลือกตั้งที่ 4 ซ้ำซ้อน ตนในฐานะแกนนำครอบครัวเพื่อไทยเขต 4 นครพนม ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง การดำเนินการเลือกตั้งตัวแทนพรรคเพื่อไทย ประจำจังหวัดนครพนม เขตเลือกตั้งที่ 4 ครั้งนี้ ดำเนินการตามกฎหมาย พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 รวมถึงระเบียบกฎหมายของ กกต. หลังจากตัวแทนพรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 4 สิ้นสภาพลง ตามกฎหมาย เนื่องจากตามกฎหมายได้ระบุว่า สมาชิกสำนักงานตัวแทนพรรคเพื่อไทยประจำจังหวัดนครพนม ในเขตเลือกตั้งที่ 4 จะต้องมีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 101 คน ทั้งสมาชิกรายปี และ ตลอดชีพ


ดร.สมชอบ นิติพจน์ กล่าวว่า ทั้งนี้ทางฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ได้มีการตรวจสอบพบว่า สำนักงานสาขาตัวแทนพรรคเพื่อไทยประจำจังหวัดนครพนม เขต 4 เดิมตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.นาแก ไม่มีการต่อสมาชิกพรรคให้ครบตามกฎหมายกำหนด หลังสมาชิกหมดวาระ จึงทำให้ตัวแทนพรรคเพื่อไทย ประจำจังหวัดนครพนม เขตเลือกตั้งที่ 4 สิ้นสภาพลง โดยกฎหมายเลือกตั้งกำหนดว่าจะต้องดำเนินการต่ออายุสมาชิกพรรคให้ครบไม่ต่ำกว่า 101 คน และเลือกตั้งตัวแทนใหม่ภายใน 60 วัน พร้อมแจ้งต่อนายทะเบียนทราบตามขั้นตอน

ตนในฐานะเป็นตัวแทนครอบครัวเพื่อไทย เขต 4 นครพนม จึงได้รับมติจากพรรคเพื่อไทย ให้ดำเนินการ จัดตั้งสำนักงานตัวแทนพรรคเพื่อไทย ประจำจังหวัดนครพนม เขตเลือกตั้งที่ 4 ขึ้น ณ บ้านเลขที่ 222 หมู่ 13 ต.ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม พร้อมดำเนินการเลือกตั้งตัวแทนพรรคเพื่อไทย ประจำจังหวัดนครพนม เขตเลือกตั้งที่ 4 ตามข้อบังคับพรรค รวมถึงให้เป็นไปตามกฎหมาย พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง 2560 โดยได้มีการสรรหาตามกระบวนการ ซึ่งมีสมาชิกเข้าร่วมสรรหาไม่ต่ำกว่า 200 คน สรุปได้ตัวแทนพรรคเพื่อไทยเขต 4 ทั้งหมด 3 คน เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมือง และให้เป็นไปตามข้อบังคับของพรรคเพื่อไทย อีกทั้งไม่ให้กระทบต่อการส่งว่าที่ผู้สมัครในเขตเลือกตั้งที่ 4 ในการเลือกตั้งสมัยหน้า เพราะหากปล่อยไว้ไม่มีการต่ออายุสมาชิก รวมถึงเลือกตัวตัวแทนพรรคเพื่อไทย เขต 4 ตามกฎหมายกำหนด จะมีผลต่อสิทธิ์การส่งว่าที่ผู้สมัครทันที ส่วนเหตุผลที่มาของการสิ้นสภาพของ สำนักงานตัวแทนพรรคเพื่อไทย เขต 4 เดิมตนไม่ทราบ เป็นเรื่องส่วนตัวของ ส.ส.ในพื้นที่ แต่ตนดำเนินการตามมติ และคำสั่งของฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย โดยในการประชุมที่ผ่านมา ตนได้โทรศัพท์พูดคุยหารือเชิญเข้าร่วมประชุม กับทาง ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกเขต ทั้ง ดร.มนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม เขต 2 รวมถึง นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.เขต 4 นครพนม เจ้าของพื้นที่ ดร.ไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม เขต 3 และ ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 1 นครพนม จนกระทั่งมีข่าวภายหลังว่าตนไม่ได้แจ้งให้ ส.ส.พื้นที่ทราบ ยืนยันไม่เป็นความจริง ส่วนเหตุผลที่บางคนไม่มาร่วม ตนไม่ขอกล่าวถึง เป็นเหตุผลส่วนตัว แต่ยืนยันไม่มีความขัดแย้งภายใน และตนยังรักเคารพ ส.ส.ในพื้นที่ รวมถึงพี่น้องประชาชน ชาว จ.นครพนม ทุกท่าน และพร้อมที่จะสานต่ออุดมการณ์การเมือง ร่วมพัฒนานครพนม ต่อไปในอนาคต สำหรับเส้นทางการเมืองตนยอมรับว่า ทำงานสนับสนุนพรรคเพื่อไทยมาตลอด อาจมีบางช่วงด้วยสถานการณ์การเมืองหลังมีปฏิวัติของ คสช.ทำให้ตนถูกคุกคามทางการเมือง จึงต้องทำตามบทบาทหน้าที่ เพื่อไม่ให้กระทบการพัฒนาต่อพี่น้องประชาชน จนกระทั่งหมดวาระลง ตนได้สมัครสู้ศึกชิงนายก อบจ.นครพนม ในนามพรรคเพื่อไทย ถึงแม้จะพ่ายแพ้การเลือกตั้ง ถือเป็นเส้นทางการเมือง มีแพ้มีชนะ แต่ยอมรับในน้ำใจ การตัดสินใจของชาวนครพนม และยังได้รับคะแนนที่ท่วมท้น ไม่แพ้การเลือกตั้งในอดีต อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่าไม่ได้ทำให้ตนท้อแท้หลังพ่ายเลือกตั้ง และยังสำนึกในบุญคุณชาวนครพนม ที่สนับสนุน ให้ทำงานการเมืองตลอดหลาย 10 ปีที่ผ่านมา ในอนาคตหากมีโอกาสที่จะลงสู้ศึกสนามการเมือง ระดับ ส.ส.ตนก็พร้อมที่จะรับใช้ชาวนครพนม ส่วนการเลือกตั้ง ส.ส.สมัยหน้า ในการคัดสรรของพรรคเพื่อไทย ส่งว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้ง เขต 4 นครพนม ขอให้เป็นไปตามกระบวนการของพรรค เพราะยังมีอีกหลายขั้นตอน สำคัญที่สุดตนพร้อมที่จะพัฒนานครพนม และพร้อมที่จะรับใช้ชาวนครพนม ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งอะไร