ข่าวอัพเดทรายวัน

รมว.พม เปิดศูนย์ช่วยเหลือสังคมวัดธาตุ พระอารามหลวง ศูนย์ช่วยเหลือสังคมในวัดแห่งแรกของจังหวัดขอนแก่น

รมว.พม เปิดศูนย์ช่วยเหลือสังคมวัดธาตุ พระอารามหลวง ศูนย์ช่วยเหลือสังคมในวัดแห่งแรกของจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร บริการต่างๆ ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปติดต่อราชการ ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี สะดวกรวดเร็ว สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเบ็ดเสร็จที่จุดเดียว หรือ One Stop Service

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 22 เม.ย.65 ที่วัดธาตุ พระอารามหลวง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมคณะ ทำพิธีเปิดศูนย์ช่วยเหลือสังคมวัดธาตุ พระอารามหลวง อ.เมืองขอนแก่น ซึ่งเป็นศูนย์ช่วยเหลือสังคมในวัดแห่งแรกของ จ.ขอนแก่น และจะมีศูนย์ช่วยเหลือสังคมในวัดทั้ง 26 อำเภอของ จ.ขอนแก่น และเป็นประธานมอบป้ายศูนย์ช่วยเหลือสังคมวัดในพื้นทั้ง 26 แห่งพร้อมมอบเงินช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง เงินสนับสนุนภาคีเครือข่าย มอบใบประกาศเชิดชูอาสาสมัครและเครือข่ายงานด้านสังคมโดยมีนายพันธ์เทพ เสาโกศล รอง ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมงาน ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีภารกิจในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน การพัฒนาสังคมการสร้างความเป็นธรรมและความเสมอภาคในสังคม ส่งเสริมพัฒนาคุณภาพและความมั่นคงในชีวิต สถาบันครอบครัวและชุมชนให้มีความเข้มแข็งและสร้างระบบที่เอื้อต่อการพัฒนาคนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สร้างหลักประกันทางสังคมที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เฉพาะ ดังนั้น การพัฒนาทุนมนุษย์ทุน จึงถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด ซึ่งจังหวัดขอนแก่นได้ดำเนินมาถูกทาง ที่ได้มุ่งเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยมีองค์กรต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมช่วยเหลือ ในการลดความเหลื่อมล้ำการสร้างโอกาส เพื่อช่วยให้คนอยู่รอด และอยู่อย่างพอเพียงและยั่งยืน

“ทั้งนี้ การดำเนินการช่วยเหลือกลุ่มคนเปราะบางในจังหวัดขอนแก่น มีกลุ่มคนเปราะบาง จำนวน 108, 257 คน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น ดำเนินการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางไปแล้วจำนวน 8,229 ครัวเรือน แบ่งออกเป็น มิติการเข้าถึงสวัสดิการภาครัฐ มิติรายได้ มิติความเป็นอยู่ และมิติสุขภาพ รวมถึงการรับสมัครอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีคนสมัครแล้วจำนวน 7,939 คน และอยู่ระหว่างเชิญชวนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรือ อสม. จำนวน 25,737 คน และการขับเคลื่อนศูนย์ช่วยเหลือสังคม ตำบล ดำเนินการจัดตั้งไปแล้วจำนวน 159 พื้นที่ คิดเป็น 79.90 เปอร์เซ็นต์”

นายจุติ ไกรฤกษ์ กล่าวอีกว่า ความฝันของคนคือการมีบ้าน แต่ในคนกลุ่มนี้ถือว่ายังเป็นฝันที่ห่างไกล จึงได้มีโครงการสร้างบ้านให้กับผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้คนกลุ่มนี้ได้มีที่อยู่อาศัย โดยการเคหะแห่งชาติ ที่จะไม่ใช่การสร้างบ้านขายแต่จะสร้างบ้านให้มีผู้รายได้น้อยสามารถเช่าและอยู่อาศัยได้ตลอดชีวิต ด้วยราคาที่ย่อมเยา ผู้ที่มีรายได้แบบรายวันก็สามารถที่จะอยู่ได้ด้วย ส่วนการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่สามารถจะพัฒนาได้นั้น ยังมีความจำเป็นที่ภาครัฐจะต้องดูแลคนกลุ่มนี้ ตามนโยบายของรัฐบาลในการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยกลุ่มเปราะบางที่ไม่สามารถพัฒนาได้นั้น จะมีอยู่ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้ที่สามารถพัฒนาได้จะต้องได้รับการพัฒนาทั้งด้านอาชีพ และรายได้ให้มีความพอเพียงและยั่งยืน ต่อไป.