ข่าวอัพเดทรายวัน

เพื่อนบ้านหนุ่มคลั่งเผยวินาทีหนีตาย ดีใจที่ตำรวจจับตัวไปรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น อยากให้บำบัดจนหายขาดกลัวก่อเหตุซ้ำ

จากกรณีนายสมชาย เต่าทอง อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 356 หมู่ 10 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี เสพยาบ้าจนคลุ้มคลั่งอาละวาดทำร้ายเพื่อนบ้าน ข่มขู่จะเผาบ้านด้วยการเปิดถังแก๊ซ จนหนีกระเจิงออกจากบ้านไปคนละทิศละทาง ก่อนออกมาก่อเหตุใช้น้ำมันเบนซินขวดราดใส่รถจักรยานยนต์ชาวบ้านและจุดไฟเผา หลังจากนั้นวิ่งเข้าไปหลบอยู่ในบ้านตัวเอง ใช้สายไฟต่อกระแสไฟฟ้าพ่วงเข้ากับประตูสังกะสีหน้าบ้าน เพื่อไม่ให้ใครเข้าไปจับตัว จนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุการณ์ และบุกเข้าไปภายในบ้าน นายสมชายฯ คลั่งพังประตูออกมาเพื่อจะหลบหนี ก่อนสิ้นฤทธิ์ด้วยอุปกรณ์เหล็กง่ามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมตัวไปโรงพักเพื่อดำเนินคดี

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 22 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ซอยโรงฆ่าสัตว์ บ้านดอนภู่ หมู่ 10 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ก่อนเข้าไปตรวจสอบสภาพบ้านของนายสมชาย เต่าทอง หนุ่มเสพยาคลั่งรายนี้ ภายในบริเวณบ้านยังพบร่องรอยการเข้าจับกุมตัวของเจ้าหน้าที่ พบสายไฟฟ้าที่ต่อพ่วงกับประตูสังกะสียังกองยู่กับพื้น รอบๆบ้านมีร่องรอยการถูกเผาไหม้ ประตู หน้าต่าง กระจก ถูกทุบทำลายเสียหายเกือบทั้งหลัง หลังบ้านมีกองวัสดุที่คาดว่าจะเป็นของภายในบ้านถูกเผาทำลายอีกกองหนึ่ง โดยไม่มีใครอยู่ภายในบ้าน ทราบจากเพื่อนบ้านว่าภรรยาและลูกของนายสมชายฯ ได้หนีไปอยู่ที่บ้านญาติเมื่อหลายวันก่อน เพราะทนพฤติกรรมไม่ไหว

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างกัน รวมทั้งร้านขายของชำที่ถัดไปไม่ไกล ที่ถูกระบุว่านายสมชายฯ ไปซื้อน้ำมันเบนซินขวดมาก่อเหตุเผารถจักรยานยนต์ และบ้านผู้เสียหายที่นายสมชายฯบุกเข้าไปจะทำร้ายผู้หญิงภายในบ้าน ก่อนที่สามีและเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวจะเข้ามาช่วยเหลือ และถูกนายสมชายข่มขู่ด้วยการเปิดวาล์วถังแก๊ซว่าจะจุดไฟเผาบ้าน จนต้องหนีกระเจิงออกจากบ้านไปคนละทิศละทาง ทำให้บาดเจ็บเล็กน้อยไปตามๆกัน โดยทิ้งหนังสติ๊กไว้เป็นหลักฐานอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเพื่อนบ้านทุกคนต่างระบุว่ารู้สึกดีใจและโล่งใจที่เจ้าหน้าที่นำตัวนายสมชายไปดำเนินคดี เพราะหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหวังว่าจะนำตัวไปบำบัดให้หายขาด ก่อนที่จะมีชาวบ้านบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากพฤติกรรมคลั่งของชายคนนี้

นางอำนวย ใจธรรม อายุ 42 ปี เพื่อนบ้านที่มีบ้านอยู่ติดกันกับหนุ่มคลั่ง เปิดเผยว่า ทุกคืนนี้จะได้ยินเสียงดัง ทำให้ไม่ได้นอน เพราะเขาจะใช้หนังสติ๊กเข้าผนังบ้าน ใช้ของแข็งทุบผนังบ้าน และใช้เครื่องเจียร ทำการเจียรเหล็ก วันไหนเขามีอาการคลั่ง ตนกับสามีจะไม่ให้ลูกมาอยู่หน้าบ้าน กลัวว่าจะได้รับอันตราย รู้เพียงว่าเขาเสพยาบ้ามาก ทำให้เกิดอาการหลอนแล้วคลั่งขึ้นมา ส่วนภรรยาของเขาได้หอบลูกหนีไปอยู่ที่อื่นไปได้ไม่กี่วัน เพราะทนพฤติกรรมของสามีไม่ได้ พอตำรวจมาจับกุมหนุ่มคลั่งคนนี้ทำให้รู้โล่งใจ ต่อไปอยู่เป็นสบายใจไม่หวาดระแวง ก็อยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ต้องรีบปล่อยตัวออกมา เพราะเป็นภัยต่อสังคมและคนอื่นในหมู่บ้าน อยากให้นำตัวไปรักษาให้หายขาด

นางวาสนา เสนาวิเศษ 52 ปี เจ้าของร้านขายของชำ เปิดเผยว่า เมื่อเช้านายสมชาย ได้มาซื้อน้ำมันเบนซินแบ่งขายจำนวน 2 ขวดกับสามีของตน ในตอนแรกจะไม่ขายให้แต่เขาถืออาวุธมาด้วย จึงจำเป็นต้องขายให้ พอทราบอีกที ได้ไปก่อเหตุเผารถจักรยานยนต์คนอื่น นายสมชายเคยทำงานเป็นพนักงานรถขยะ ระยะหลังไม่ออกไปทำงาน ให้เมียหาเลี้ยงด้วยการขายผักที่ตลาดนัด พึ่งเห็นครั้งแรกที่นายสมชายมีอาการคลั่งอาละวาด ที่ผ่านมาทราบเพียงว่านายสมชาย ชอบทำร้ายเมีย เพราะเวลาเมียเขามาซื้อของที่ร้าน ตามร่างกายจะมีร่องรอยถูกทำร้าย จึงได้สอบถาม ทำให้รู้ว่านายสมชายทำร้ายเมียเป็นประจำ ทำให้ทนไม่ได้ต้องพาลูก 2 คน หนีไปอยู่บ้านญาติ บ้านที่เขาอยู่ก็ยังผ่อนธนาคาร ชาวบ้านทุกคนสงสารเมียเขามาก

นายสงคราม กลางจอหอ อายุ 48 ปี เจ้าของร้านขายเนื้อ เปิดเผยว่า เมื่อเช้าลูกชายของตนขี่รถจักรยานยนต์กลับมาถึงบ้าน ต้องวิ่งหนีตายเพราะนายสมชายบุกเข้าไปในบ้านของตน แล้วไปเปิดวาล์วแก๊ส ที่ตั้งอยู่หน้าบ้าน ตนกับเมียและลูกต้องวิ่งหนีออกไปทางหลังบ้าน เพราะนายสมชาย ตั้งใจจะมาเผาบ้านของตน แต่ก่อนเมียนายสมชาย เคยมารับเนื้อวัวที่บ้านตนไปขาย แต่ผิดใจกันเนื่องจากนายสมชายอ้างว่า เมียของตนไปแย่งพื้นที่ขายเนื้อของเมียเขา เมียเขาเลยเปลี่ยนไปขายผักแทน ทำให้นายสมชายไม่พอใจ จะมาหาเรื่องตนอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งยังมีพฤติกรรมคลั่งไปหาเรื่องบ้านข้างเคียงอีก เคยไปเผาศาลพระภูมิของเพื่อนบ้าน สอบถามว่าทำทำไมก็ตอบวกไปวนมา หลังจากเผาแล้วยังเอาปลาทูไปใส่ไว้ในศาลที่ถูกเผาด้วย

นายประยุทธ กงบุราณ อายุ 32 ปี เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ถูกเผา เปิดเผยว่า เมื่อเช้าตนมาซื้อไส้หมูก่อนที่จะไปที่นา ตอนนั้นหนุ่มคลั่งถือก้อนหิน ลักษณะจะเข้ามาทำร้ายตน ด้วยการใช้มีดมาไล่ฟัน ตนก็วิ่งหนีสุดชีวิต โดยจอดได้รถจักรยานยนต์เอาไว้ ทำให้รถถูกเผาดังกล่าว ก่อนหน้านี้เคยมาระงับเหตุหนุ่มคลั่งรายนี้ด้วย จากเหตุการณ์ที่มาหาเรื่องบ้านขายเนื้อวัว ตอนนั้นเขาถือมีด จอบ และมีก้อนหิน แต่โชคดีในวันนั้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือได้รับอันตราย แต่มาวันนี้ก็มาเกิดเรื่องขึ้นอีก ทำให้รถจักรยานยนต์ของตนถูกเผาได้รับความเสียหาย รู้สึกดายรถจักรยานยนต์มาก หลังจากดำเนินคดีกับเขาแล้ว ก็จะนำมารถมาซ่อม เพราะไม่มีรถขับไปทำงาน คงจะเอาเรื่องกับหนุ่มคลั่งให้ถึงที่สุด