ข่าวอัพเดทรายวัน

เกษตรอำเภอโพนสวรรค์ ถ่ายทอดความรู้หยุดเผาในพื้นที่การเกษตร ส่งเสริมการรวมกลุ่มและสร้างเครือข่ายปลอดการเผา

วันที่ 27 เมษายน 2565) ที่ศูนย์เครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หมู่ที่ 7 ตำบลโพนบก อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม สำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม ร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอโพนสวรรค์ จัดกิจกรรม ส่งเสริมการรวมกลุ่ม และสร้างเครือข่ายเกษตรปลอดการเผา ภายใต้โครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร เพื่อเป็นการถ่ายทอดความรู้และส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายที่เข้มแข็งในการปลอดการเผาในพื้นที่ อีกทั้งยังเปิดเวทีในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงแนวทางในการป้องกันและมาตรการที่จะดำเนินการในพื้นที่ร่วมกัน โดยมีนายนิพพิชฌน์ อติอนวรรตน์ นายอำเภอโพนสวรรค์ เป็นประธานในพิธี ซึ่งมีเกษตรกรเป้าหมายเข้าร่วม จำนวน 60 ราย

สำหรับสถานการณ์การทำการเกษตรในปัจจุบันเกษตรกรมีการเผาในพื้นที่การเกษตร หรือการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชน ก่อให้เกิดฝุ่นมลพิษในอากาศเพิ่มขึ้น อีกทั้งการเผาก่อให้เกิดอันตรายต่อทรัพย์สินผู้อื่น ตามมาตรา 220 คือ ผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงให้แก่วัตถุใดๆ แม้เป็นของตนเอง จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท (ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499) และหากยังมีการเผาต่อเนื่องจะทำให้ผิดกฎหมาย ตามมาตรา 74 คือ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามมาตรา 21 มาตรา 22 มาตรา 27 วรรคหนึ่ง หรือมาตรา 28 วรรคหนึ่ง หรือวรรคสาม หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศ ที่ออกตามมาตรา 28/1 วรรคสอง โดยไม่มีเหตุหรือขัดข้อแก้ตัวอันสมควร หรือขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามมาตรา 23 มาตรา 27 วรรคสอง หรือมาตรา 28 วรรคสองต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ (แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.การสาธารณสุข (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560)

สำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม ร่วมขับเคลื่อนกับสำนักงานเกษตรอำเภอโพนสวรรค์ ได้ดำเนินการรณรงค์หยุดเผาในพื้นที่การเกษตรมาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการถ่ายทอดความรู้พร้อมแนะนำการใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ที่ช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้กับเกษตรกร เช่น การไถกลบตอซัง การทำปุ๋ยหมัก การเพาะเห็ดฟาง และการทำอาหารสัตว์ ซึ่งเน้นในการลดต้นทุนการผลิตเป็นหลัก และสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรนในพื้นที่ ทั้งนี้เกษตรกรที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับความรู้ถึงผลกระทบจากการเผาในพื้นที่การเกษตรเพิ่มมากขึ้น ก่อให้เกิดการสำนึกและรับผิดชอบต่อส่วนรวม เกิดการใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร โดยการสร้างมูลค่าเพิ่ม ช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้กับเกษตรกรในช่วงฤดูแล้ง อีกทั้งยังช่วยแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่การเกษตรให้ลดลงในอนาคต สำหรับการดำเนินกิจกรรมในครั้งนี้ได้มีการกล่าวคำสัตยาบัน ร่วมกันในการหยุดการเผา รวมทั้งได้มีการแลกเปลี่ยนและเสนอแนะข้อคิดเห็นต่างๆในการเป็นพื้นที่ที่ปลอดการเผาอย่างสมบูรณ์แบบ ก่อให้เกิดการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาใช้ประโยชน์ สร้างอาชีพ และรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ได้อย่างมั่นคง