ข่าวอัพเดทรายวัน

สุรินทร์ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านพร้อมสามีขี่จยย.ตามพ่อค้าไปชั่งน้ำหนักวัวที่จะขาย ระหว่างทางถูกรถยนต์ชนดับคู่

เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจาก กู้ภัยสุรินทร์ประจำจุด อบต.สำโรง ตำบลสำโรง อำเภอเมืองสุรินทร์ ว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับจยย. มีผู้เสียชีวิตเป็นหญิงในที่เกิดเหตุ 1รายเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นชาย 1รายและได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา โดยจุดเกิดเหตุ อยู่บนถนน อำเภอลำดวน-สุรินทร์ กิโลเมตรที่16 อยู่ด้านหน้าโรงสีข้าวแห่งหนึ่ง โดยเหตุการณ์ก่อนเกิดอุบัติเหตุ ผู้ตายได้เตรียมจะขายวัวและได้พาพ่อค้าไปชั่งน้ำหนักที่โรงชั่งจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างทางจนเสียชีวิต

ผู้สื่อข่าวจึงรุดลงพื้นที่ไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ พบรถจยย.ฮออนด้าเวฟ 110i สีดำ-น้ำเงินหมายเลขทะเบียน 1กผ 5813 สุรินทร์ สภาพด้านหน้าเสียหายอย่างหนักด้านข้าวพังยับห่างไป 2เมตร พบผู้เสียชีวิต เป็นหญิง1รายเสียชีวิตคาที่ทราบชื่อ นางมณรัตน์ มาลีแก้ว มีตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 ม.1 ต.สำโรง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ห่างออกไป 1เมตร พบผู้บาดเจ็บสาหัสซึ่งเป็นสามีผู้ตาย มีอาการบาดเจ็บสาหัส ทราบชื่อ นาย วีระ มาลีแก้ว อายุ 50ปี และเสียชีวิตในเวลาต่อที่โรงพยาบาล ห่างออกไปอีก 3เมตร พบรถยนต์คู่กรณีสถาพเสียหายด้านหน้าขวามีรอยยุบคาดว่าน่าจะเกิดจาการชน ทราบชื่อคนขับรถยนต์ชื่อ นายนัฐิพงษ์ จัดจ้าง อายุ 39ปี ได้ยืนให้ข้อมูลลำดับเหตุการณ์กับผู้สื่อข่าว

ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของผู้ตาย บ้านสำโรง ตำบลสำโรง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ได้พูดคุยกับลูกสาวของผู้ตายนางสาว มณฑิตา มาลีแก้ว อายุ18ปี เล่าว่า ตนมีพีน้องร่วมกันทั้งหมด 3คน โดยตนเป็นพี่คนโตและรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยพ่อและแม่เป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องทำงานส่งเสียตนและน้องๆเรียนหนังสื่อ หลังจากนี้ตนก็ยังไม่ทราบชะตากรรมของครอบครัวว่าจะไปต่ออย่างไร เพราะเสียเสาหลักของครอบครัวต้องเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก
ส่วนทางด้านคดีความตำรวจกำลังเร่งดำเนิน และส่วนทางด้านคู่กรณี วันนี้ได้มาเยี่ยมให้กำลังใจและมอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับครอบครัว ซึ่งตนก็ยังอยู่ในอาการที่โศกเศร้าและยังพูดให้ข้อมูลได้ไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่ฟันธงเกี่ยวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าใครผิดใครถูก ต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงต่อไป