ข่าวอัพเดทรายวัน

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นผู้แทนพระองค์ พระราชทานเพลิงศพ พระเทพมงคลวัชโรดม(แสง จันทวังโส) พระเกจิชื่อดังนครพนม

วันที่ 30 เมษายน 2565 เวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นผู้แทนพระองค์ไปในการพระราชทานเพลิงศพ พระเทพมงคลวัชโรดม (แสง จันทวังโส) ณ วัดโพธิ์ชัย บ้านโพนตูม หมู่ 4 ตำบลก้านเหลือง อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม

พระเทพมงคลวัชโรดม (แสง จันทวังโส) อดีตเจ้าคณะตำบลก้านเหลือง และอดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย ได้มรณภาพอย่างสงบที่กุฏิวัดโพธิ์ชัย บ้านโพนตูม หมู่ 4 ตำบลก้านเหลือง อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2565 เวลา 06.20 น. หลังจากมีอาการอาพาธด้วยโรคชรา สิริอายุ 102 ปี (1 เดือน 11 วัน) 82 พรรษา โดยพระเทพมงคลวัชโรดม (แสง จันทวังโส) เมื่อครั้งมีชีวิตอยู่เป็นพระสุปฏิปันโนที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยไม่ยอมประพฤติล่วงพระบัญญัติแม้ในสิ่งที่ผู้อื่นเห็นว่าเล็กน้อย มีความสมถะ และมีความรู้ลึกซึ้งแตกฉาน เป็นพระสงฆ์ที่เปี่ยมด้วยคุณธรรมและเมตตาเป็นที่พึ่งของชาวบ้าน มีนามเดิมว่า นายแสงวงศ์ วงษ์ตาผา เกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2463 วันแรม 6 ค่ำ เดือน 4 ปีมะแม (ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 6) บิดาชื่อนายบุญจันทร์ มารดาชื่อนางสิงห์ เป็นชาวบ้านโพนตูม ต.ก้านเหลือง อ.นาแก โดยท่านได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เมื่ออายุ 19 ปี ด้วยการบรรพชาเป็นสามเณรหน้าไฟ เพื่ออุทิศส่วนกุศลและส่งดวงวิญญาณให้กับคุณตาที่ล่วงลับ ณ วัดศรีสำราญจิต บ้านดอนโทน หมู่ที่ 5 ต.ก้านเหลือง มีพระครูนาครธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดศรีสำราญจิตเป็นพระอุปัชฌาย์ และเมื่อเสร็จพิธีอุทิศส่วนกุศลและส่งดวงวิญญาณแล้ว เจ้าอาวาสไม่ยอมให้ลาสิกขา และพาเดินธุดงค์ปฏิบัติธรรมกรรมฐาน บำเพ็ญเพียร มาต่อเนื่องในพื้นที่หลายจังหวัดของภคอีสาน และได้เข้าจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านแก้ง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เรื่อยมา กระทั่งวันที่ 3 ตุลาคม 2482 ท่านอายุครบ 22 ปี จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ มีพระครูบริหารเกษมรัฐ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอุยเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระดมเป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังอุปสมบทได้มุ่งมั่นเล่าเรียนด้วยปฏิภาณไหวพริบที่ดีเลิศจนสำเร็จการศึกษาแผนกธรรม ได้แก่ นักธรรมชั้นตรี–โท–เอก ตามลำดับ

อีกทั้งยังได้เล่าเรียนอักขระเลขยันต์และวิทยาคมต่าง ๆ จนเชี่ยวชาญ โดยท่านเป็นพระภิกษุผู้ปฏิบัติชอบตามพระธรรมวินัย คอยเทศนาธรรมโวหารโปรดญาติโยมและชาวบ้านอย่างสม่ำเสมอจนเป็นที่เคารพศรัทธามาตลอด ต่อมาญาติโยมจึงได้นิมนต์ท่านกลับบ้านเกิด เพื่อมาจำพรรษา ณ วัดโพธิ์ชัย บ้านโพนตูม หมู่ 4 ต.ก้านเหลือง และด้วยท่านเป็นพระที่มีความสมถะ ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ มีความรู้ลึกซึ้งแตกฉาน และในช่วงนั้นแถบเทือกเขาภูพานมีผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ชุกชุม ท่านได้นำสมุนไพรที่มีอยู่ในป่าลึกแถบภูดงน้อย มารักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับชาวบ้านจนหายป่วย ภายหลังการสู้รบสงบลง จึงมีชาวบ้านและลูกศิษย์ที่เลื่อมใสศรัทธาจำนวนมาก แวะเวียนมากราบไหว้และทำบุญไม่ขาดสาย และด้วยการบำเพ็ญประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและดูแลการเจ็บป่วยของชาวบ้าน จึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร นามพระครูอุดมรังสี และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย และเจ้าคณะตำบลก้านเหลือง ต่อมาในปี 2564 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ถวายสัญญาบัตร พัดยศ ผ้าไตร เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชมงคลวัชโรดม และในปี 2565 เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระเทพมงคลวัชโรดม