ข่าวอัพเดทรายวัน

ศรีสะเกษ พายุฝนถล่มต้นยางยักษ์อายุกว่า 100 ปี โค่นล้มทับรถเก๋งที่วิ่งมาบนถนน คนขับหวิดดับ

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 1 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งเหตุ มีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับรถยนต์ ที่บริเวณถนนรอบเมืองใต้ ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงได้ประสานงานไปยังหน่วยบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ศรีสะเกษ ไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบรถเก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน 7 กอ 3027 กรุงเทพมหานคร ถูกต้นยางยักษ์ล้มทับอยู่บนถนน ด้านหน้ารถพังเสียหาย โชคดีที่คนขับและผู้โดยสารไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ยังอยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากการสอบถาม นายนคร ศรีราชัย คนขับรถเก๋ง บอกว่า ขณะที่ตนและแฟนสาวขับรถคันดังกล่าวมาตามถนนรอบเมืองใต้ เพื่อที่จะไปซื้อกับข้าว ขณะนั้นได้มีฝนตกรินๆ เมื่อขับผ่านบริเวณที่มีต้นยางยักษ์ใหญ่อยู่ประมาณ 4 – 5 ต้น จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงโครม ๆ พร้อมกับมีกิ่งไม้พาดมาที่ตัวรถ ด้วยความตกใจ เมื่อตั้งสติได้ จึงรีบบอกแฟนให้ออกมาจากรถ ซึ่งเมื่อเปิดประตูออกมาก็พบว่า มีต้นยางยักษ์ล้มทับรถของตน จนรถพังเสียหาย จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ถือว่าเคราะห์ดี ที่กิ่งไม้ล้มทับบริเวณหน้ารถเท่านั้น ทำให้ไม่มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ

นอกจากนี้ ต้นยางยักษ์ที่ล้มลงมายังพาดเกี่ยวเอาสายไฟฟ้าแรงสูง ทำให้เสาไฟฟ้าหักโค่นลงอีกกว่า 10 ต้น เจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ได้เร่งใช้เลื่อยยนต์ตัดกิ่งไม้ออก เพื่อเปิดทางจราจรให้รถวิ่งสัญจรผ่านไปมาได้เช่นเดิม เจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ศรีสะเกษ ได้มาตรวจสอบเสาไฟฟ้าและสายไฟฟ้าแรงสูงที่ขาด จึงได้รีบเร่งซ่อมแซมให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวได้กลับมามีไฟฟ้าใช้เช่นเดิม

จากเหตุการณ์ต้นยางยักษ์อายุกว่า 100 ปี ที่ล้มลงนี้ สาเหตุเกิดจากพายุฤดูร้อน ที่ทำให้มีฝนตกติดต่อกันมาหลายวัน ส่งผลให้พื้นดินอ่อนตัว จึงทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มลงมา ซึ่งชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ ต่างพากันหวาดผวาว่าจะเกิดเหตุต้นยางยักษ์ล้มลงมาอีก เกรงว่าจะล้มลงมาทับบ้านของตนเองที่มีคนอาศัยอยู่ในบ้านตลอดเวลา จึงอยากจะขอให้ทางเทศบาลเมืองศรีสะเกษได้มาตัดต้นยางยักษ์ออกจากบริเวณดังกล่าว ที่ยังเหลืออีกประมาณ 3 – 4 ต้น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน