กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พรบ.การเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พุทธศักราช…สภาผู้แทนราษฎร เปิดรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเข้าชื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 6 พ.ค.65 ที่ โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล จังหวัดขอนแก่น นายสมศักดิ์ คุณเงิน รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง เป็นประธานเปิดการสัมมนา การมีส่วนร่วมของประชาชนด้านการเมืองการปกครอง ในการเข้าชื่อกันเพื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่นหรือเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น โดยมีนายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ วิทยาการและผู้เข้าร่วมสัมมนา ภายใต้มาตรการคุมเข้มโควิด-19
นายสมศักดิ์ คุณเงิน รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง กล่าวว่า การจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นนี้ จัดขึ้นในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการตรากฎหมาย โดยเฉพาะประเด็นการถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งที่จังหวัดขอนแก่น มีตัวแทนของท้องถิ่น ทั้ง 225 แห่ง เข้าร่วมสัมมนา โดยคณะกรรมาธิการได้ไปรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนจากทั้ง 3 ภูมิภาค คือ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง ซึ่งความคิดเห็นที่ได้จากการรับฟังจะนำไปสู่การพิจารณาปรับปรุงกฎหมาย ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถือเป็นกฎหมายที่สำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่มีความจำเป็นต้องตรากฎหมายฉบับนี้
“จากการจัดสัมมนาใน 3 ภูมิภาค ที่ผ่านมาได้รับข้อเสนอที่ดีและเป็นประโยชน์ทั้งในแง่ของการที่จะปรับปรุงอย่างไร และมีเงื่อนไขอย่างไร ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีหลายขนาด รวมถึง กรุงเทพฯ และเมืองพัทยา ซึ่งสาระสำคัญคือจะดูในภาพรวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ให้เกิดความเป็นธรรม และยึดหลักประชาธิปไตย โดยประชาชนที่จะเข้าชื่อถอดถอนได้นั้นต้องมีเสียงข้างมาก โดยกรรมาธิการยึดหลักที่ว่าการที่จะถอดถอนได้ต้องมีจำนวนเสียงไม่น้อยกว่า ที่เคยได้รับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพื่อเป็นหลักประกันไม่ให้มีการกลั่นแกล้งกัน และให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนในท้องถิ่น
รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง กล่าวอีกว่า เพื่อให้สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีความรับรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและเหตุผล รวมถึงเนื้อหาของร่างพระราชบัญญัติการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พุทธศักราช…และร่างพระราชบัญญัติการเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พุทธศักราช. … โดยได้รับทราบความต้องการของประชาชนในการมีส่วนร่วมของประชาชนด้านการเมืองการปกครอง โดยการเข้าชื่อกันเพื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่นหรือเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อนำข้อมูลผลการรับฟังความคิดเห็นไปสู่การทบทวน ปรับปรุง และพัฒนาร่างกฎหมาย ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
โดยแต่เดิม รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 กำหนดเงื่อนไขการถอดถอนไว้ 3 ใน 4 ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ เป็นการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอน แต่กฎหมายฉบับใหม่นี้ จะเป็นการเข้าชื่อเพื่อถอดถอน โดยให้ประชาชนเข้าชื่อให้ครบตามจำนวนที่ระบุในกฎหมาย คือเกินกึ่งหนึ่ง หรือหากเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ จะต้องมีจำนวนรายชื่อมากกว่าคะแนนเสียงที่ได้รับจากการเลือกตั้ง จึงจะถือเป็นการถอดถอนได้ เพื่อเป็นการประกันสิทธิ์ให้กับสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น”
.