วันที่ 6 พฤษภาคม 2565 เวลา 14.00 น. ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.สายเพชร ศรีสังข์ รอง ผบช.ภ.4 ด้านตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นำโดย พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พ.ต.อ.ศักดิ์ชาย สาดมะเริง พ.ต.อ.สมศักดิ์ ตระการไพโรจน์ พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ พ.ต.อ.ชัยพร พงษ์ศักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พร้อมด้วยผู้กำกับตำรวจภูธร(ผกก.ฯ),หัวหน้าสถานี(หน.สภ.ฯ) รวม 19 สภ. และ 10 หน่วยงานตำรวจในพื้นที่,1 กองกำกับการสืบสวนฯ โดย พ.ต.อ.กฤติน กอร์ปกุลหิรัญ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรฯ และ 1 กองพิสูจน์หลักฐานฯ ร่วมแถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ระหว่างวันที่ 2-7 พฤษภาคม 2565 รวม 6 วัน
เบื้องต้น พ.ต.อ.บุญเทียน พุดสีเสน ผกก.สภ.บ้านแพง แถลงปิดคดีฆ่าปาดคอเหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 06.30 น. พ.ต.ท.คำจันทร์ ภูวงดาษ พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตในกระท่อมไม่มีเลขที่ในสวนยางพาราบ้านทุ่งสว่าง หมู่ 7 ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม ภายในกระท่อมพบศพผู้ตายเป็นหญิงทราบว่าชื่อนางทศ อุทันแสน อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 16 หมู่ 5 บ้านบึงใต้ ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง มีบาดแผลบริเวณลำคอด้านหน้า ห่างจากศพพบมีดทำครัวประมาณ 50 ซม.ตกอยู่ มีคราบเลือดเกรอะกรัง และเหล้าขาวขวดเล็กตั้งอยู่ ในที่เกิดเหตุมีนายศิริพัฒน์ อุทัยแสน หรือไหว อายุ 61 ปี เป็นสามีของผู้ตายอยู่ด้วย โดยอ้างว่าก่อนเกิดเหตุหลังกรีดยางแล้วได้มานั่งดื่มเหล้าขาวกับเมีย และมีปากเสียงกันซึ่งนางทศมีอาการมึนเมาไปคว้ามีดที่อยู่ใกล้ๆปาดคอตัวเองจนเสียชีวิต
จากการตรวจร่างกายนายไหว ตามลำตัวตั้งแต่ลำคอถึงเอวมีร่องรอยคล้ายเล็บข่วนเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จึงเก็บหลักฐานทั้งในที่เกิดเหตุและที่ร่างกายของนายไหว ส่งตรวจเปรียบเทียบ DNA อย่างละเอียด ทั้งนี้ ในที่เกิดเหตุไม่มีพยานบุคคลเห็นเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยชั่วคราว กระทั่งวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 ผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ออกมาพบว่าตรงกับนายไหวทุกประการ จึงขออนุมัติหมายจับกุมตัวผู้ต้องหา แม้มีหลักฐานมัดตัวนายไหวยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งทางคดีพนักงานสอบสวนยืนยันมีหลักฐานแน่นหนา
นอกจากนี้ พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ชัยพร พงษ์ศักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ฯ แถลงข่าวผลการกวาดล้างอาชญากรรมระหว่างวันที่ 2-7 พฤษภาคม 65 ว่า ในช่วงระดมกวาดล้างฯ เกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน สามารถตรวจค้น ตรวจยึด 1.อาวุธปืนไม่มีทะเบียน 30 กระบอก 2.อาวุธปืนมีทะเบียน 1 กระบอก 3.วัตถุระเบิด และระเบิดสังหาร 5 ลูก 4.กระสุนปืน 192 นัด 5.ชิ้นส่วนอาวุธปืน 14 ชิ้น และ 6.ผู้ต้องหา 52 ราย ด้านการกวาดล้างเกี่ยวกับคดียาเสพติด 1.จับกุมผู้ต้องหาครอบครองยาเสพติด 78 ราย 2.จำหน่าย 1 ราย 3.ผู้ต้องหาเชื่อมโยงเครือข่าย 80 ราย รวมของกลางมียาบ้า 99,011 เม็ด ยาไอซ์ 5.6 กรัม
ผบก.ภ.จว.นครพนม กล่าวผ่านผู้สื่อข่าวไปยังประชาชน ว่า ผู้ใดมีชิ้นส่วนอาวุธปืนอยู่ในครอบครองก็ถือว่ามีความผิด หรือมีกระสุนปืน 1 นัด หากมาใส่ในกระบอกปืนก็สามารถทำอันตรายแก่ผู้อื่นได้ ก็ถือว่ามีความผิดเช่นกัน หรือนำไปใส่ในอาวุธปืนสงครามก็จะมีโทษหนักกว่าเดิม โดยเฉพาะปืนปากกาที่นิยมในหมู่วัยรุ่นแม้ใส่กระสุนได้ทีละนัด แต่ก็ฆ่าคนอื่นได้ อย่ามีไว้ครอบครองโดยเด็ดขาด