ข่าวอัพเดทรายวัน

อำนาจเจริญ ชมรมรักพุทธศาสน์ฯ พร้อมกับหลายหน่วยงานร่วมกันแถลงข่าวกล่าวโทษเอาผิดหมอปลาและเอาผิดเจ้าหน้าที่ของรัฐ

อำนาจเจริญชมรมรักพุทธศาสน์นานาชาติ ชมรมลูกตถาคต กองทุนทนายอาสาปกป้องพระพุทธศาสนากและกลุ่มสตรีอำนาจเจริญและคณะทำงานพรรคเสรีรวมไทย ร่วมกันแถลงข่าวกล่าวโทษเอาผิดหมอปลาและเอาผิดเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคน

วันที่ 21 พฤษภาคม 2565 เวลา 10.00 น.นางสาวอิงค์ณภัจฉร์ ชินวัตรนุวงศ์ ประธานชมรมรักพุทธศาสน์นานาชาติ
หม่อมหลวงกานตพงศ์ วรวุฒิประธานชมรมลูกตถาคต กองบุญทนายอาสาปกป้องพระพุทธศาสนา กลุ่มพลังสตรีอำนาจเจริญ นำโดย แม่พุทธรักษา ภูย่านาง คณะทำงาน พรรคเสรีรวมไทย นำโดย พ.ท. ประสาน แสงสว่าง นายวินัย มีชัย อดีตประธานหอการค้า ชมรมพระเครื่องและพุทธศาสนิกชนจังหวัดอำนาจเจริญและจังหวัดใกล้เคียง

ได้ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อติดตามการดำเนินคดีการแจ้งความและความคืบหน้ารวมไปถึงการมอบหลักฐานเพิ่มเติมให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรณีที่นายจีรพันธ์ เพชรขาวหรือหมอปลา กับพวกได้กระทำการ ดูหมิ่น ใส่ร้าย พระสงฆ์ ( หลวงปู่แสง )ที่อำเภอป่าติ้วตามที่เป็นข่าวที่ผ่านมา ชาวพุทธ จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดใกล้เคียงและทั่วประเทศ ไม่สามารถปล่อยปัญหานี้ ให้ผ่านไปได้เพราะเป็นการคุกคามและบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา

ซึ่งกลุ่มคนดังกล่าวได้กระทำการละเมิดพระสงฆ์ โดยสร้างสถานการณ์โดยการโฆษณาและโดยการใส่ร้ายป้ายสีสร้างสถานการณ์อันเป็นเท็จ และเป็นการกลั่นแกล้ง ให้เกิดความเสื่อมเสียในสื่อคอมพิวเตอร์ และสื่อสาธารณะซึ่งเรื่องนี้ ชาวพุทธทั่วประเทศและทั่วโลก ได้เกิดความกังวลใจและเกิด ข้อข้องใจ ในพฤติกรรมของกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ซึ่งเป็นบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาอย่างร้ายแรง

และเพื่อเป็นการป้องกัน ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ให้กับบุคคลที่ไม่ประสงค์ดีต่อพระพุทธศาสนาไม่ว่าจะเป็นคนนอกศาสนาหรือคนในศาสนาที่ไม่ศรัทธาในพุทธศาสนาหรือมีผลประโยชน์แอบแฝงก็ตามจะต้องถูกดำเนินการทางกฎหมาย ที่บัญญัติไว้จนถึงที่สุด

ถ้าหากว่ามีการกระทำความผิดพระธรรมวินัยก็มีข้อในการพิจารณาความผิดโดยการตั้งอธิกรณ์สอบ และการพิจารณา ฐานผิดพระธรรมวินัยนั้นอยู่ในขั้นใดซึ่งเป็นเรื่องของพระสงฆ์ที่ปกครองสงฆ์ไม่ใช่เรื่องของผู้ใดผู้หนึ่งที่จะไปก้าวล่วง โดยไม่มีอำนาจและไม่มีหน้าที่

จากนี้ต่อไปเบื้องหน้าองค์กรชาวพุทธและพุทธศาสนิกชนจะจับตาดูกลุ่มคนเหล่านี้รวมไปถึงองค์กรหน่วยงานของรัฐเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ไม่ปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนาตามหน้าที่ในรัฐธรรมนูญจะถูกตคำถามและอาจจะมีการฟ้องร้องหรือกล่าวโทษองค์กรนั่นนั้นบุคคลนั้นๆ และต่อจากนี้ไปหากมีกรณีการทำความเสื่อมเสียกับพระสงฆ์ขึ้นมาะต้องได้สืบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงฐานความผิดทางวินัยหรือกฏหมายทางโลกอย่างใกล้ชิดและเป็นธรรม

นอกจากนี้แล้วจะได้มีการตรวจสอบคนที่ปลอมเข้ามาบวชเพื่อสร้างความเสื่อมเสียให้พระพุทธศาสนานั้นก็จัดการไปตามกฎหมายส่วนพระที่ผิดพระธรรมวินัยก็ให้ลงโทษตามพระธรรมวินัยไม่ใช่ไปประจาน ในสื่อสาธารณะจนเกิดความเสียหายและไม่สามารถ กอบกู้เกียรติคืนได้ซึ่งเกิดมาแล้วกับพระผู้ใหญ่หลายๆรูป จากนี้ชาวพุทธจะจับตาและตรวจสอบหน่วยงานหรือองค์กรที่ไม่ออกมาปกป้องพระพุทธศาสนาตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ ก็จะฟ้องในความผิดนั้นๆ

ประชาชนชาวพุทธมีความคลางแคลงสงสัย ในสำนักพุทธศาสนา ที่จะต้องดูแลปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา
แต่ยังไม่เคยเห็นบทบาทใดๆที่เป็นที่เด่นชัดหรือคุ้มครองพระพุทธศาสนาได้เลยแม้แต่ครั้งเดียวตั้งแต่มีสำนักพุทธขึ้นมาจนทำให้เกิดความสงสัยว่ามีสำนักพุทธไว้เพื่ออะไร นี่เป็นคำถามจากชาวบ้าน ที่ถามไปยัง ผอ. สำนักพุทธซึ่งขึ้นตรงต่อสำนักนายกรัฐมนตรีวันนี้ภัยคุกคามพระพุทธศาสนามีหลายๆบริบททุกองคาพยพสอดคล้องกันจนวันนี้ชาวพุทธได้ตื่นตัวและตาสว่างในภัยคุกคามของพระพุทธศาสนาและเฝ้าระวังและสังเกตุการณ์ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องข้อกฎหมายที่ออกมาบังคับใช้เหนือพระธรรมวินัยรวมไปถึงการสร้างสถานการณ์เหตุการณ์ต่างๆเพื่อทำลายพระพุทธศาสนาต่อจากนี้ไปชาวพุทธทุกท่านทุกคนก็คงจะต้องได้ลุกขึ้นมาเพื่อดูแลปกป้องพระพุทธศาสนาหากไม่มีพระพุทธศาสนาสถาบันอื่นก็อยู่ไม่ได้

และหลังจากแถลงข่าวที่จังหวัดอำนาจเจริญเสร็จแล้วก็จะเดินทางไปยังสภ. ป่าติ้วจังหวัดยโสธรเพื่อยื่นเอกสารเพิ่มเติมในการกล่าวโทษนายจีระพันธ์เพชรขาวหรือหมอปลากับพวกรวมไปถึงตรวจสอบพฤติกรรมของนายอำเภอและตัวแทนสำนักพุทธที่เดินทางเข้าไปวัดร่วมกับคณะของหมอปลาว่า มีความผิด ร่วมกันหรือไม่ เข้าไปในฐานะอะไร

และได้ตอบข้อซักถามกับผู้สื่อข่าวในกรณีที่จะสร้างเหรียญหลวงปู่แสงซึ่ง นางสาวอิงค์ณภัจฉร์ก็กล่าวว่าไม่เห็นด้วย
รวมไปถึงประชาชนส่วนใหญ่ของจังหวัดอำนาจเจริญและจังหวัดใกล้เคียงไม่เห็นด้วยเพราะ หลวงปู่ ธาตุขันธ์ไม่ค่อยแข็งแรงควรให้หลวงปู่ได้พักผ่อน ไม่ควรจะ รบกวนท่าน ซึ่งบทบาทนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ควรออกมาเป็น ต้นเรื่องในการทำเหรียญหลวงปู่ เพราะไม่ได้ทำให้เหตุการณ์สถานการณ์ดีขึ้นควรจะออกมาปกป้องหลวงปู่ มากกว่านี้

นางสาวอิงค์ณภัจฉร์ กล่าวในท้ายสุดจากนั้นได้เดินทางไปที่ สภ. ป่าติ้วจังหวัดยโสธรเพื่อส่งเอกสารเพิ่มเติม ในการกล่าวโทษกลุ่มบุคคลดังกล่าวต่อไป