ข่าวอัพเดทรายวัน

นพค.22 ทุ่มงบ กว่า 50 ล้าน สร้างตำบลต้นแบบ เกษตรพอเพียง สู้โควิด

นครพนม นพค.22 อ.นาแก จับมือ อบต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท นำร่องสร้างตำบลต้นแบบ หนุนส่งเสริมอาชีพเกษตรพอเพียง ครบวงจร พัฒนาแหล่งน้ำ รับมือแล้ง เส้นทางคมนาคมขนส่งเพื่อการเกษตร ยกระดับชุมชน เป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรพอเพียง สร้างรายได้ สร้างอาชีพยั่งยืน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ยกระดับมาตรฐานสินค้า เพิ่มช่องทางการตลาด สู้ภัยโควิด

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 อ.นาแก สำนักงานพัฒนาภาค 2 กองบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย นับเป็นหน่วยงานสำคัญนอกจากจะดูแลงานความมั่นคง ยังเป็นหน่วยงานสำคัญในการดูแลความเป็นอยู่พื้นฐานของประชาชน ในการส่งเสริมอาชีพตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ตามพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 รวมถึงเป็นต้นแบบในการพัฒนาอาชีพให้กับชุมชน มีความเข้มแข็ง สร้างงาน สร้างรายได้ ครบวงจร โดยเฉพาะในยุคสถานการณ์โควิดระบาด ถือเป็นอีกหน่วยงานสำคัญ ที่ดูแลรับผิดชอบ บรรเทาความเดือดร้อน ลงพื้นที่ให้ความรู้ประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนด้านความเป็นอยู่ ได้นำอาชีพการเกษตร มาใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อสร้างรายได้ในครัวเรือน รวมถึงการวางแนวทางพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมอาชีพการเกษตร พัฒนาเส้นทางคมนาคม ดูแลความเป็นอยู่ของชุมชน ให้เกิดความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้ เน้นลดรายจ่าย สร้างรายได้

ล่าสุดทางด้าน พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้มอบนโยบายให้ พลเอก จีรัชญ์ บุญชญา ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ร่วมกับ พลตรี ธีระยุทธ จินหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา มอบหมายให้ พลตรี จตุรภัทร วงศ์ศรีเผือก รองเสธนาธิการ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ฝ่ายพัฒนา) ร่วมกับ พ.อ.สัณทัศน์ ชำนาญเวช ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 อ.นาแก สำนักงานพัฒนาภาค 2 กองบัญชาการทหารพัฒนา ลงพื้นที่ส่งมอบโครงการ ตามแนวพัฒนา ประจำปี 2565 ภายใต้ความร่วมมือ ของ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 อ.นาแก สำนักงานพัฒนาภาค 2 กองบัญชาการทหารพัฒนา ร่วมกับ อบต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม สนับสนุนงบประมาณ จำนวนกว่า 50 ล้านบาท นำร่องเป็นตำบลต้นแบบ ในการวางแผนพัฒนาด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน พัฒนาเส้นทางคมนาคมขนส่ง เพื่อการเกษตร จำนวน 23 โครงการ โครงการจัดหาน้ำกินน้ำใช้จำนวน 28 โครงการ งานพัฒนาช่วยเหลือประชาชน 4 โครงการ งานโครงการเกษตรผสมผสาน จำนวน 8 โครงการ เน้นการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงแบบครบวงจร รวมถึงมอบสัตว์เลี้ยงเพื่อการเกษตรในครัวเรือน ขุดบ่อน้ำเลี้ยงปลา เลี้ยงหมู เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ การตั้งกลุ่มทอผ้าพื้นเมือง เน้นลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายไปสู่การสร้างรายได้ และส่งเสริมต่อยอดด้านการตลาดให้ชุมชน ยกระดับสินค้าการเกษตร ส่งออกสู่ตลาด สู้ภัยโควิด  พร้อมสนับสนุนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวศูนย์เรียนรู้ให้ประชาชน หรือเกษตรกร ที่สนใจมาศึกษาเยี่ยมชม

พลตรี จตุรภัทร วงศ์ศรีเผือก รองเสธนาธิการ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ฝ่ายพัฒนา)  เปิดเผยว่า สำหรับโครงการแผนพัฒนาของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 อ.นาแก จ.นครพนม ถือเป็นการดำเนินงานตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารสูงสุด รวมถึงผู้บัญชาการทหารพัฒนา นำร่องตำบลต้นแบบในการพัฒนาสาธารณูปโภค รวมถึงส่งเสริมการเกษตรครบวงจร เริ่มจากการพัฒนาหาแหล่งน้ำให้ชุมชนทั้งน้ำอุปโภคบริโภค รวมถึงน้ำทำการเกษตร เลี้ยงสัตว์ ปลูกผัก เพื่อเลี้ยงครอบครัว ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และต่อยอดยกระดับให้เป็นสินค้าการเกษตรส่งขายสู่ตลาดเป็นชุมชนเข้มแข็ง มีผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชนเป็นของตัวเอง รวมถึงการก่อตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าพื้นเมืองออกจำหน่าย ทั้งนี้สำคัญที่สุด เมื่อมีการสนับสนุนส่งเสริมครบวงจร จะต้องได้รับการพัฒนาต่อยอดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ควบคู่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ให้สามารถดึงดูดประชาชน นักท่องเที่ยว เข้ามาศึกษาเยี่ยมชม อุดหนุนสินค้าในชุมชน ที่จะเป็นการสร้างรายได้ยั่งยืน โดยหน่วยทหารพัฒนาจะร่วมกับ หน่วยงานเกี่ยวข้อง เป็นพี่เลี้ยงดูแลต่อเนื่อง จนกว่าจะสามารถพึ่งพาตนเองได้ เชื่อว่าในอนาคตจะสามารถแก้ปัญหาความยากจน สู้ภัยโควิดได้เป็นอย่างดี

นายตี๋ นามมูนตรี อายุ 65 ปี เกษตรกรชาวบ้านชาติพัฒนาชาติไทย ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าหลังจาก หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 อ.นาแก สำนักงานพัฒนาภาค 2 กองบัญชาการทหารพัฒนา ได้เข้ามาดูแล ส่งเสริมอาชีพการเกษตรครบวงจร ตั้งแต่การขุดบ่อเลี้ยงปลา เป็นแหล่งน้ำทำการเกษตร การแจกพันธุ์หมู พันธุ์เปิด ให้เลี้ยงเพื่อขยายพันธุ์สร้างรายได้ ทำให้มีอาชีพ โดยเฉพาะการปลูกพืชผักสวนครัวระยะสั้น สามารถนำมาใช้ประกอบอาหารในครัวเรือน ลดรายจ่าย สร้างรายได้ อีกทั้งยังสามารถนำไปขายสร้างรายได้ วันละ 200 -300 บาท จากไม่มีรายได้เลย  ที่สำคัญไม่ต้องเสียเงินไปจ่ายตลาด และยังมีรายได้เสริม ในอนาคต จะเร่งขยายพันธุ์สัตว์เลี้ยงเพื่อการเกษตร เพื่อสร้างรายได้ อีกทาง  ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ดี  สามารถทำให้มีรายได้ในครัวเรือน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ต้องขอขอบคุณ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาที่ให้ความสำคัญในความเป็นอยู่ของประชาชน  ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น