ข่าวอัพเดทรายวัน

ราคาก๊าซหุงต้มขอนแก่นวันนี้ปรับขึ้นถังละ 30 บาท ขณะที่ ร้านโจ๊กชื่อดังขอนแก่น ขอตรึงราคาอีก 1 เดือน

ราคาก๊าซหุงต้มขอนแก่นวันนี้ปรับขึ้นถังละ 30 บาท ขณะที่ ร้านโจ๊กชื่อดังขอนแก่น ขอตรึงราคาอีก 1 เดือน หากต้นทุนยังแพงอยู่สิ้นเดือนปรับขึ้นราคาจำหน่ายแน่ วอนรัฐเร่งหามาตรการช่วยเหลือโดยเฉพาะคนละครึ่งที่ทุกคนรออยู่

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 1 มิ.ย.2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาร้านอาหาร หลังพบว่าราคาวัตถุดิบต้นทุนยังคงมีการปรับเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะก๊าซหุงต้ม, อาหารทะเล เนื้อหมู,ไข่ไก่ ส่งผลกระทบต่อต้น ในกลุ่มร้านอาหารอย่างมาก โดยเฉพาะที่ร้านโจ๊กคุณแอ๋ม ซึ่งตั้งอยู่ภายในตลาดโต้งรุ่งร่วมจิตร เขตเทศบาลนครขอนแก่น ที่ยังคงขายเมนูโจ๊ก,ข้าวต้ม,เกาเหลาเซี่ยงจี๋ และเมนูยำ ที่ยังขายในราคาเดิมแม้ภาระต้นทุนจะสูงขึ้นแต่ภายในสิ้นเดือนนี้หากราคาวัตถุดิบยังไม่ลด ก็จะมีการปรับขึ้นราคา 10-20 บาทต่อเมนู

นายประกาศิต กันทำ เจ้าของร้านโจ๊กคุณแอ๋ม ขอนแก่น กล่าวว่า ยอมรับว่าวัตถุดิบหลักของร้านแทบทุกชนิดมีการปรับราคาสูงขึ้น เมื่อเช้านี้ราคาก๊าซหุงต้มปรับขึ้นมาอีกถังละ 30 บาท ตอนนี้ราคาถังละ 380 บาท ขึ้นมาจากถังละ 330 บาท โดยเป็นการปรับขึ้นราคามา2 รอบ ซึ่งที่ร้านใช้ก๊าซหุงต้มประมาณวันละ 2 ถัง ขณะที่วัตถุดิบต่างๆก็ปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอาหารทะเลที่ขึ้นมาเห็นได้ชัดจะเป็นกุ้งขึ้นมาอีกกิโลกรัมละ 15 บาท ก่อนหน้านี้กิโลกรัมละ 310 ขึ้นมาเป็น 325 บาท

“ถ้าราคาต้นทุนแพงขึ้นอย่างนี้ ชนิดปรับขึ้นแบบรายวันหรือรายสัปดาห์ คาดว่าสิ้นเดือนร้านคงต้องขอปรับราคาขึ้น หากราคาวัตถุดิบต้นทุนยังไม่ปรับราคาลง โดยราคาที่คาดว่าจะปรับใหม่จะอยู่ที่เมนูละ 10-20 บาทแล้วแต่เมนู ซึ่งถ้าเมนูที่ไม่ใช่ทะเลจะปรับขึ้น 10 บาทต่อเมนู ถ้าเป็นทะเลจะปรับขึ้น 20 บาทต่อเมนู เช่น โจ๊กธรรมดา 40 บาท ขึ้นเป็น 50 บาท โจ๊กใส่ไข่จาก 45 บาท เป็น 55 บาท ข้าวต้มทะเลจาก 70 บาท เป็น 80 บาท “

นายประกาศิต กล่าวต่ออีกว่า สำหรับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับสูงขึ้น ก็ต้องยอมรับว่ากระทบกับทางร้านและลูกค้าที่จะเดินทางมาซื้อด้วย เห็นได้ชัดคือทุกวันลูกค้าจะลดลงจากเดิมไปอีกว่า 30 % และพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไปจากเดิมเคยมาซื้ออาหารกันต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงเที่ยงคืน หรือช่วงร้านปิด แต่เดี๋ยวนี้ 3 ทุ่มก็หมดคนแล้ว แต่ก็ยังคงมีทดแทนจากกลุ่มลูกค้าที่ซื้อผ่านระบบเดลิเวอรี่ก็อีกนิดหน่อย อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรัฐบาลควรเร่งหามาตรการช่วยเหลือหรือมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ ที่น่าจะเข้ามาช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับร้านค้าได้มาก ซึ่งผู้ประกอบการรายย่อยทุกวันนี้ล้วนต่างรอความหวังว่ารัฐบาลจะมีโครงการรัฐบาลดีๆมาช่วยเหลือซึ่งต้องมีความชัดเจนได้แล้ว