ข่าวอัพเดทรายวัน

สุรินทร์วงจรปิด รพ.สุรินทร์ จับภาพสาวมหาภัย พ้นโทษจากเรือนจำเพียง 2 วัน ตระเวนก่อเหตุสวมรอยเป็นคนเฝ้าไข้

วงจรปิด รพ.สุรินทร์ จับภาพสาวมหาภัย พ้นโทษจากเรือนจำเพียง 2 วัน ตระเวนก่อเหตุสวมรอยเป็นคนเฝ้าไข้ ก่อนฉกเอาสร้อยแหวนมือถือญาติผู้ป่วย ไม่พอแค่นั้นกลางวันตระเวนขโมยผ้าไหมบ้านที่ผู้สูงอายุอยู่เพียงลำพังกวาดไปจำนวนมากในหลานพื้นที่

ภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลสุรินทร์ จับภาพนางพรปวีณ์ หรือ ยม ทองเกลี้ยง อายุ 50 ปีผู้ต้องหาที่สวมรอยเข้าไปเป็นคนเฝ้าไข้ผู้ป่วยในโรงพยาบาล ก่อนในช่วงเที่ยงคืน ฉกเอาทรัพย์สินของญาติผู้ป่วยที่มานอนเฝ้า ได้มือถือไป 1เครื่อง พร้อมสร้อยคอนำหนัก 1สลึง แหวนทองคำ 1 สลึง ก่อนเผ่นหนีออกจากโรงพยาบาล มิหนำซ้ำในช่วงกลางวัน ยังออกตระเวนหาขโมยไปทั่ว เน้นผ้าไหมเป็นพิเศษเพราะขายได้ราคา ก่อนไปก่อเหตุที่ตำบลสวาย ลักทรัพย์เอาผ้าไป บ้านแรกไป 19 ผืน ส่วนอีก 2 หลังปฏิเสธ แต่ตำรวจมีข้อมูลมัดแน่น ยอมรับสารภาพว่านำไปขายในร้านในตัวเมืองในราคา 7,000 บาท อีกครั้งหนึ่งในราคา หนึ่งหมื่นบาทเศษ ก่อนนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายซื้อเสื้อผ้า เปิดโรงแรมนอน ก่อนออกตระเวนไปยังร้านคาร์แคร์แห่งหนึ่ง ฉกโน๊ตบุ๊ครุ่นดัง ราคากว่า 30,000 เศษ ไปจำนำเพียงราคา 1,000 บาท ไม่เพียงพอเธอจึงนั่งรถไปหาป้าบริเวณบ้านนาเกา ต.แกใหญ่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ แต่ไม่เจอป้า ก่อนเดินลัดเลาะมาที่บ้านเลขที่ 45/2 บ้านนาเกา มีเพียงคุณยายวัย 85 ปี อยู่ที่บ้าน ก่อนใช้อุบายถามสารทุกข์สุขดิบ เสมือนรู้จักบ้านหลังนี้ดี ขณะที่ยายมีน้ำใจเข้าไปหยิบน้ำมาให้ดื่ม นางพรปวีณ์ พรวดเข้าห้องทันที หยกลังผ้าไหมไม่ต่ำกว่า 30 ผืน ออกมา คว้าผ้าไหมมา 4ผืนใส่กระเป๋า ก่อนโยนลังไปยังสวนป่าหลังบ้าน แล้วรีบออกจากบ้านไป ส่วนผ้าไหมก็นำไปขายที่เดิม ก่อนที่จะนำเงินที่ได้ไปเปิดโรมแรมนอนอย่างสบายใจ

แต่ดวงโจรดับ นางพรปวีณ์ มาซื้อตั๋วรถไฟ เพื่อจะไปหาเพื่อนที่ดอนเมือง แต่ตำรวจรถไฟจำตำหนิรูปพรรณจากกลุ่มไลน์ที่แจ้งถึงรูปพรรณ์คนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ได้ จึงประสานชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ โดย พ.ต.ท.สกาว คำไกร รอง ผกก.สืบสวน พร้อมสารวัตรสืบสวน และชุดนอกเครื่องแบบ เข้ามาจับกุมตัวขณะนั่งรถรอไฟ นำตัวไปสอบปากคำพร้อมจำนนด้วยหลักฐานชุดเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุที่โรงพยาบาลทั้งเสื้อแดง กางเกงแดงลาย ส่วนสร้อยแหวนบอกว่านำไปขายที่ศรีสะเกษ ผ้าไหมนำไปขายที่ร้านที่ตนรู้จักในตัวเมือง

ตำรวจชุดสืบสวนค้นประวัติพบเป็นหางว่าว เคยเข้าออกเรือนจำมาแล้ว 4 ครั้ง ในคดีลักทรัพย์ ล่าสุดออกมาเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นวันที่ 6 พ.ค. ก็ไปก่อเหตุขโมยผ้าไหมที่ ตำบลสวาย และในเขตบ้านนาเกา รวมถึงขโมยทรัพย์สินของญาติคนไข้ในโรงพยาบาลด้วย จึงนำตัวไปชี้จุดที่ทิ้งลังผ้าไหม ก่อนนำตัวไปสอบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีต่อไป