กระทรวงการคลัง ได้คัดเลือกจังหวัดขอนแก่น เป็นพื้นที่จัดประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโส ด้านการคลังเอเปค ระหว่างวันที่ 22 – 23 มิ.ย.นี้ ในรูปแบบการประชุมในสถานที่ โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเป็นประธาน โดยมีสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปค และองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ เข้าร่วมหารือในประเด็นเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก รวมถึง ประเด็นสำคัญ (Priorities) ซึ่งเป็นประเด็นที่ประเทศไทย ผลักดันให้มีการหารือในช่วงการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค ได้แก่ ประเด็นการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Finance) และประเด็นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อมุ่งสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล (Digitalization for Digital Economy)
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ขอนแก่นพร้อมในการเป็นพื้นที่จัดประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังเอเปค (APEC Senior Finance Officials’ Meeting: APEC SFOM) โดยได้มีการประเตรียมความพร้อมไม่ว่าจะเป็นด้านโครงสร้างพื้นฐาน การต้อนรับผู้ข้าร่วมการประชุมและที่สำคัญคือจังหวัดขอนแก่นจะเป็นที่รู้จักของทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ ที่จะมาร่วมประชุมครั้งนี้ ซึ่งเป็นการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการคลังของ 21 เขตเศรษฐกิจของเอเปค และอีก 5 กลุ่มเศรษฐกิจ ซึ่งจะได้ประชุมหารือให้มีการตกผลึกในเรื่องของประเด็นปัญหาระบบการเงินการคลัง ก่อนที่จะนำไปสู่ข้อตกลงระหว่างประเทศ สำหรับการประชุมใหญ่ เอเปค ที่จะจัดขึ้นในเดือนตุลาคม ที่กรุงเทพฯ
“จังหวัดขอนแก่น เป็นเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่ มีที่ตั้งที่ได้เปรียบทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ตั้งอยู่กึ่งกลางของภูมิภาค ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่สำคัญมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางบริการ ประกอบด้วย ด้านการเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุนและบริการศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งและ โลจิสติกส์ ศูนย์กลางการแพทย์และสาธารณสุข ศูนย์กลางการศึกษา ศูนย์กลางอุตสาหกรรมสีเขียว ศูนย์กลางการประชุมและท่องเที่ยว โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและบริการ จังหวัดขอนแก่น มีศูนย์การแสดงสินค้าและการจัดประชุมสัมมนาที่ได้มาตรฐาน ได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.หรือTCEB ) ให้จังหวัดขอนแก่นเป็น MICE CIY 1 ใน 10 ของประเทศไทย”
จังหวัดขอนแก่น มีความพร้อมในการรองรับการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ด้านการคลังเอเปค ในทุกๆ ด้าน ได้แก่ สถานที่ประชุมจัด ณ โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ และการไปศึกษาดูงานและกิจกรรม (Social Programme) ณ สวนเกษตรมีกินฟาร์ม อ.หนองเรือ และการไปเยี่ยมชมศูนย์วิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง อ.เวียงเก่า นับเป็นโอกาสอันดีที่ขอนแก่น จะเกิดการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในจังหวัด พร้อมทั้งเป็นการแสดงศักยภาพของเศรษฐกิจชุมชนทั้งในด้านการท่องเที่ยวและเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทย
นอกจากนี้ จังหวัดขอนแก่นได้จัดเตรียมของที่ระลึกเป็น “ผ้าคลุมไหลไหมมัดหมี่ ลายแคนแก่นคูน” สีฟ้าเทาพาสเทล ลายอัตลักษณ์ประจำจังหวัดขอนแก่น ที่ผลิตจากเส้นไหมไทยพื้นบ้านสาวด้วยมือสร้างสรรค์ลวดลายด้วยเทคนิคการมัดหมี่ ทอด้วยกี่ทอผ้าแบบพื้นบ้าน ผสานความละเอียดประณีต และจิตวิญญาณในการสร้างสรรค์ผลงานของช่างทอพื้นบ้านอีสาน มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
โดยจังหวัดขอนแก่นกำลังดำเนินการขอใช้เครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นของผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคในการตัดสินใจเลือกใช้สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งนอกจากจะสร้างรายได้ให้แก่ผู้ผลิตผ้าไหม ปีละกว่า 2,000 ล้านบาทแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าไทยความสามารถในการแข่งขันในเวทีการค้าโลกได้อีกด้วย.