ข่าวอัพเดทรายวัน

บุรีรัมย์ญาติร้องระงมรับศพพลทหารผูกคอดับปริศนาในค่ายคาใจถือป้ายหน้าโรงจี้ต้นสังกัดรับผิดชอบไม่เชื่อฆ่าตัวตาย

ญาติร้องระงมรับศพพลทหาร “เปี๊ยก” ชาวจ.บุรีรัมย์ สังกัดทหารอากาศผูกคอดับปริศนาคาสนามฝึกในค่ายที่กรุงเทพฯ คาใจถือป้ายประท้วงหน้าโรงศพเรียกร้องต้นสังกัดชี้แจงสาเหตุและออกมารับผิดชอบไม่เชื่อฆ่าตัวตายเอง ป้าเผยสุดเศร้าหลานไปเป็นรั้วของชาติแต่ปล่อยตายเหมือนหมา ไม่มีตัวแทนทหารมาส่งแม้แต่คนเดียว ยันไม่เผาศพจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม

เมื่อเวลา 16.00 น. (26 มิ.ย.65) รถของหน่วยกู้ภัยฯ แห่งหนึ่งได้นำร่างไร้วิญญาณของ พลทหารวีระวัฒน์ ตราชูวณิช หรือเปี๊ยก อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/64 ประจำการอยู่ที่ศูนย์การทหารอากาศแห่งหนึ่ง ที่เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ซึ่งต้นสังกัดแจ้งว่าเสียชีวิตจากการใช้เชือกผูกคอตายที่บริเวณสนามฝึก ภายในค่ายฯ เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา กลับมาส่งที่บ้านเกิดที่ตำบลสองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวและญาติพี่น้องที่มารอรับศพ ทันทีที่ศพมาถึงวัดจัดเตรียมไว้รอรับศพ ครอบครัวและญาติต่างก็ร้องไห้ด้วยความเสียใจ เมื่อกู้ภัยฯ นำศพลงจากรถญาติก็ขอให้เปิดโรงให้ดูก่อน เนื่องจากติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต เพราะไม่เชื่อว่า พลทหารวีระวัฒน์ จะผูกคอเสียชีวิตเองตามที่ต้นสังกัดแจ้ง ซึ่งเมื่อเห็นร่องรอยที่บริเวณลำคอตามที่ต้นสังกัดแจ้งว่าผูกคอตาย ทางญาติก็ยิ่งทำให้ญาติไม่เชื่อว่าจะเป็นการผูกคอเสียชีวิตเอง เพราะหากผูกคอตายทำไมรอยช้ำไปอยู่ที่บริเวณต้นคอ ทำไมไม่เป็นรอยที่คอช่วงที่ติดกับคางซึ่งผิดปกติของคนที่ผูกคอตาย ที่สำคัญไม่มีเหตุจูงใจอะไรที่จะทำให้พลทหารวีระวัฒน์ ต้องผูกคอตาย แต่ต้นสังกัดกลับแจ้งว่าน่าจะเกิดจากอาการซึมเศร้าจึงคิดสั้น ทั้งที่ที่ผ่านมาพลทหารวีระวัฒน์ ก็ปกติร่าเริงดีไม่เคยมีอาการซึมเศร้าให้เห็นเลย โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ก็เพิ่งจะกลับมาเยี่ยมบ้าน ก็ไม่ได้มีท่าทีจะซึมเศร้าอะไร

ครอบครัวและญาติยังได้พากันถือป้ายที่หน้าโรงศพของพลทหารวีระวัฒน์ เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม ให้ทางต้นสังกัดออกมาชี้แจงสาเหตุการตายที่แท้จริง และรับผิดชอบด้วยเพราะเป็นการเสียชีวิตภายในค่ายที่อยู่ในการกำกับดูแลของผู้บังคับบัญชา และญาติยืนยันว่าจะยังไม่เผาศพจนกว่าจะได้รับคำตอบและความเป็นธรรม

นางลิ้นจี่ โคกกล่ำ ป้าของพลทหารวีระวัฒน์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ทั้งครอบครัวและญาติไม่เชื่อว่าหลานจะผูกตอตายเอง เพราะไม่มีสาเหตุอะไรที่หลานจะต้องผูกคอตาย ที่สำคัญอยากรู้ว่าตอนที่หลานกลับมาเยี่ยมบ้าน มีรุ่นพี่ที่ค่ายโทรมาหาแล้วได้ยินพูดกับหลานว่าถ้าไม่มาจะจำหน่ายออก ตนก็อยากรู้ว่าจำหน่ายออกหมายถึงอะไร และไม่รู้ว่าหลานมีปัญหาอะไรหรือไม่ เพราะก่อนหลานจะเสียชีวิตได้โทรศัพท์มาขอยืมเงินตน 1,000 บาทบอกว่าจำเป็นต้องใช้ แต่ตอนนั้นดึกแล้วตนก็บอกหลานไปว่าให้รอก่อนเพราะมันดึกแล้ว ผ่านไป 2 วัน ก็ได้รับข่าวร้ายว่าหลานเสียชีวิตแล้วด้วยการผูกคอตายในค่ายก็ตกใจมาก อยากให้ทางต้นสังกัดออกมาชี้แจงสาเหตุการตาย เพื่อให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวด้วย

ขณะที่นางศรีนวล ห้าวหาญ ป้าสะใภ้ ที่เป็นคนไปติดต่อขอรับศพที่กรุงเทพฯ บอกว่า จากที่ตนได้เห็นรอยที่คอของหลานที่ค่อนข้างจะผิดปกติของคนที่ผูกคอตายทั่วไป จึงเชื่อว่าน่าจะมีเงื่อนงำอื่นหรือไม่ แต่หากน้องเดินไปผูกคอเสียชีวิตเองแล้วทำไมในค่ายจะไม่มีวงจรปิด หรือมีคนอยู่เวรคอยดูแลเลยเหรอ ปล่อยให้น้องเดินออกจากโรงนอนตอนกลางดึกได้อย่างไร และติดใจที่บอกว่าน้องอาจจะคิดสั้นเพราะเป็นโรคซึมเศร้า ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะก่อนหน้านี้น้องก็ร่าเริงดี และที่ญาติรู้สึกรับไม่ได้คือหลานเสียชีวิตขณะเป็นพลทหาร แต่ทำไมถึงไม่มีตัวแทนทหารมาส่งศพหรือแสดงความเสียใจกับครอบครัวเลย ปล่อยให้ตายแล้วเอาศพกลับบ้านเหมือนหมาตัวหนึ่ง ไม่มีเกียรติไม่มีศักดิ์ศรีอะไรเลย
ด้านนายวุฒิชัย โคกกล่ำ ผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นลุงของผู้ตาย บอกว่า ทั้งครอบครัวและญาติพี่น้องต่างติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตของหลาน ไม่เชื่อว่าจะเป็นการผูกคอตาย อยากให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุการตาย และให้ต้องสังกัดออกมาชี้แจง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวด้วย เพราะพลทหารวีระวัฒน์ ถือเป็นเสาหลักของครอบครัว ที่ต้องดูแลทั้งยายที่แก่ชรา แม่มีอาการสมองไม่ปกติ และน้องชายที่ยังเล็ก รวม 3 ชีวิต ซึ่งฐานะครอบครัวก็ยากจน ซึ่งญาติก็จะยังไม่เผาศพหลานจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม