ข่าวอัพเดทรายวัน

คนขอนแก่น เที่ยวเก่ง ลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 คึกคัก

คนขอนแก่น เที่ยวเก่ง ลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 คึกคักรับโควิดผ่อนคลายและกลายเป็นโรคประจำถิ่น วอนรัฐทบทวนงบกระตุ้นตัวอื่นเพิ่มด้วย เพราะน้ำมันแพง ของแพง ยังไม่มีทีท่าจะลดลง

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 มิ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการลงทะเบียนโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศ เปิดให้ประชาชน ผู้ไม่เคยลงทะเบียนรับสิทธิ เข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. เป็นต้นไป โดยวันนี้เป็นวันที่ 2 ของการลงทะเบียนรับสิทธิ์ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียน ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. ผ่านเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com

โดยพบว่าที่ร้านกาแฟคอฟฟี่เด้อหล่า โอโซนวิลเลจ ถ.เทพารักษ์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่าหลังจากที่เปิดให้มีการลงทะเบียนตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมานั้นชาวขอนแก่นต่างให้ความสนใจในการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์เราเที่ยวด้วยกันอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่มีทั้งผู้ที่ได้รับสิทธิ์ และผู้สมัครรายใหม่ ที่ต่างพากันเข้าระบบเพื่อตรวจสอบสิทธิ์และยืนยันตัวบุคคลในการรับสิทธิ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

นางบังอร กองโฉม อายุ 45 ปี ชาว จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ติดตามนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง โครงการเราเที่ยวด้วยกันที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้นั้นเป็นนโยบายที่ดีที่ช่วยเหลือผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและที่สำคัญคือการให้คนไทยนั้นเที่ยวไทยใช้ชีวิตแบบนิวนอร์มอล หลังสถานการณ์โควิดภาพรวมของประเทศนั้นผ่อนคลายลง

“โดยส่วนตัวยังไม่เคยลงทะเบียนเที่ยวด้วยกันมาก่อน เพราะขอรอให้สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น ดังนั้นเมื่อสถานการณ์ผ่อนคลายลง ก็คิดว่าน่าจะไปเที่ยวแบบไม่ต้องกังวลมากเหมือนช่วงที่ผ่านมา จึงอยากจะพาครอบครัวไปเที่ยวพัทยา ไปพักผ่อนเนื่องจากไม่ได้ไปเที่ยวไหนมา 2 ปี สถานการณ์โควิดดีขึ้นแต่กลับมาเจอพิษเศรษฐกิจค่าครองชีพแพง น้ำมันแพง คิดว่าจะมีโครงการอื่นๆของรัฐบาลมาร่วมด้วยเช่นโครงการคนละครึ่งหรือโครงการที่ใช้ควบคู่กับโครงการเราเที่ยวด้วยกันได้เพราะคนได้ไปเที่ยวแต่เจอของแพงกำลังซื้อลดลงทางรัฐบาลน่าจะออกโครงการกระตุ้นการใช้จ่ายมาร่วมด้วย”

นางบังอร กล่าวต่ออีกว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี เห็นชอบขยายสิทธิในเฟส 4 เพิ่มอีก 1.5 ล้านสิทธิ จากเดิม 2 ล้านสิทธิ รวมเป็น 3.5 ล้านสิทธิ และขยายเวลาสิ้นสุดการดำเนินโครงการ จากเดิม คือ เดือน พ.ค. เป็นเดือน ต.ค.2565 ซึ่งถือเป็นห้วงเวลาที่เหมาะสมแล้ว