ข่าวอัพเดทรายวัน

กรมประมงจับมือ 32 ชุมชนอนุรักษ์พาปลากลับบ้านจากโขงสู่หนองหาร เตรียมเพิ่มประชากร 5 ล้านตัว

วันนี้ (28 มิ.ย. 65) ที่บริเวณท่าน้ำวัดมหาพรหมโพธิราช บ้านท่าวัดเหนือ หมู่ที่ 3 ตำบลเหล่าปอแดง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานเปิดโครงการ “ประมงร่วมอาสาพาปลากลับบ้านจากโขงสู่หนองหาร” ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ กว่า 5 ล้านตัว ลงสู่หนองหารจังหวัดสกลนคร พร้อมบรรยายพิเศษ เรื่อง “นโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรประมงในหนองหาร จังหวัดสกลนคร” เยี่ยมชมนิทรรศการความรู้ทางการประมง และชมการดำเนินการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำด้วยระบบเพาะฟักเคลื่อนที่ Mobile hatchery ซึ่งหลังโครงการแล้วเสร็จคาดว่าจะเพิ่มผลผลิตและคงความหลากหลายทางชีวภาพให้แก่หนองหารและลุ่มน้ำก่ำ ก่อประโยชน์ในการทำประมงของชุมชน และเป็นแหล่งโปรตีนให้กับประชาชนต่อไปในอนาคต

นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อปี 2564 กรมประมงได้ดำเนินโครงการ “ประมงร่วมอาสาพาปลากลับบ้าน” เพื่อฟื้นฟูผลผลิตสัตว์น้ำคืนความอุดมสมบูรณ์สู่ระบบนิเวศต้นน้ำและแม่น้ำสาขา ด้วยการร่วมกับชุมชนในพื้นที่ ดำเนินการเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดของไทย ด้วย “ชุดอุปกรณ์เพาะพันธุ์ปลาแบบเคลื่อนที่” (Mobile hatchery) และนำผลผลิตลูกปลาวัยอ่อนที่ได้ปล่อยคืนสู่ต้นน้ำที่เป็นแหล่งกำเนิด ซึ่ง 2 พื้นที่เป้าหมาย คือ หนองหาร จังหวัดสกลนคร และกว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา โดยได้ดำเนินการแล้วเสร็จในเฟสที่ 1 ผลปรากฏว่า สามารถสร้างผลผลิตทรัพยากรปลาไทยและปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติได้มากถึง 76.79 ล้านตัว สามารถเพิ่มอาหารโปรตีนราคาถูกและเพิ่มรายได้ให้ประชาชน

สำหรับชนิดพันธุ์ปลาที่ได้ดำเนินการเพาะขยายพันธุ์ มีจำนวน 2 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มปลากินพืช ได้แก่ ปลาตะเพียน ปลาตะเพียนทอง ปลากาดำ และปลากระแห และ 2. กลุ่มปลาหนัง ได้แก่ ปลาสวาย ปลาเทโพและปลากดเหลือง นอกจากนี้ ยังได้ส่งเสริมถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ได้เรียนรู้ในทุกกระบวนการขั้นตอน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมให้เกิดขึ้นในชุมชน ทั้งนี้ โดยกรมประมงได้มีการสนับสนุนการสร้างแหล่งอาหารสำรองเพื่อรองรับจำนวนลูกปลาที่จะนำมาปล่อย เป็นการเพิ่มอัตราการรอดและการเติบโตของลูกปลาจำนวนมาก หลังจากนำไปปล่อยในพื้นที่แหล่งต้นน้ำ และจะมีการประเมินความชุกชุมการแพร่กระจายและการเติบโตของพันธุ์ที่นำมาปล่อยอีกด้วย ภายใต้การมีส่วนร่วมขององค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นและผู้นำชุมชนในพื้นที่