ข่าวอัพเดทรายวัน

บุรีรัมย์พบศพตา 75 ถูกทุบหัวแทงคอหลายแผลทิ้งศพอำพรางข้างทางให้เหมือนเป็นอุบัติเหตุ ตร.คุมตัวลูกชายเค้นสอบ

พบศพตาวัย 75 ชาวบุรีรัมย์ถูกทุบศรีษะและแทงหลายแผลทิ้งศพอำพรางข้างทางพร้อม จยย.และรถเข็นของ ให้เหมือนเป็นอุบัติเหตุ ตร.รุดตรวจสอบบ้านผู้ตายพบคราบเลือดหยดเป็นทางยาว รอยลากกับพื้นดิน และที่นอนถูกเผาคาดทำลายหลักฐาน คุมตัวลูกชายวัย 28 เค้นสอบแต่ยังปากแข็ง พี่ชายโมโหพุ่งเข้าต่อยน้องเชื่อเป็นคนฆ่าพ่อเพราะเคยจะทำร้ายพ่อมาแล้ว

เวลาประมาณ 05.00น. (29 มิ.ย.65) ร.ต.ท.จิรายุ ตาจงราช รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งพบศพชายสูงอายุนอนหงายเสียชีวิตในลักษณะขาพาดอยู่บนรถเข็นของ บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 24 สายโชคชัย-เดชอุดม ช่วงทางโค้งบ้านไพศาล ต.ไพศาล ฝั่งขาเข้าอำเภอประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ โดยมีรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำอยู่ใกล้กับศพด้วย เบื้องต้นคาดว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุถูกรถเฉี่ยวชนเสียชีวิต จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.ประโคนชัย และหน่วยกู้ภัยบ้านสองเมือง ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุก็พบร่างนายเขมา โสเพียร อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 บ้านละลมพะนู ต.ไพศาล อ.ประโคนชัย นอนหงายเสียชีวิตในลักษณะขาท่อนล่างจนถึงหัวเข่าพาดอยู่บนรถเข็นของสีฟ้า สวมเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำถูกถลกลงจากเอวจนเห็นกางเกงใน และพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีเทา หมายเลขทะเบียน ขวต-653 ชลบุรี ล้มคว่ำอยู่ใกล้กับศพด้วย แต่จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการเฉี่ยวชนโดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ไม่ได้รับความเสียหาย และที่น่าตกใจคือเมื่อแพทย์ตรวจสอบสภาพศพผู้เสียชีวิตเบื้องต้น พบที่บริเวณศรีษะคล้ายกับถูกของแข็งทุบตีเป็นแผลฉกรรจ์จนกะโหลกเปิด ทั้งมีแผลคล้ายถูกของมีคมเฉือนที่ใบหน้าอีกหลายแผล รวมถึงที่ลำคอและท้ายทอยก็มีรอยเหมือนถูกของมีคมแทงอีก 2 แผลด้วย เจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่าไม่น่าจะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่น่าจะถูกทำร้ายร่างกายแล้วนำศพมาทิ้งอำพราง จึงได้ให้หน่วยกู้ภัยฯ นำร่างผู้เสียชีวิตส่งให้แพทย์ผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด

จากนั้นพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ประโคนชัย ก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงตรวจสอบบ้านของผู้เสียชีวิตด้วย โดยที่บ้านก็ความผิดปกติหลายอย่าง ทั้งรอยคล้ายคราบเลือดตามพื้นดินแต่เหมือนกับถูกขุดเอาดินตรงที่มีหยดเลือดออก ทั้งพบรอยครูดกับพื้นดินคล้ายกับมีการลากอะไรบางอย่าง ทั้งยังพบที่นอนของผู้ตายถูกเผาทิ้งเอาไว้อยู่หลังบ้านด้วย และพบมีดปลายแหลมอีก 2 เล่มอยู่ภายในบ้านแต่ไม่มีคราบเลือด จึงเก็บไปทำการตรวจสอบ นอกจากนั้นยังเจอคราบเลือดหยดตั้งแต่ถนนลาดยางหน้าบ้าน ไปจนถึงจุดเกิดเหตุระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตรด้วย จากร่องรอยที่พบทำให้เชื่อได้ว่าผู้ตายน่าจะถูกฆาตรกรรมแล้วนำศพไปทิ้งอำพรางให้ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ทำการควบคุมตัวนายชัชวาล โสเพียร อายุ 28 ปี ลูกชายคนที่ 5 ของผู้ตาย ไปสอบปากคำที่โรงพัก เนื่องจากนายชัชวาล อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวกับผู้ตายเพียง 2 คน ส่วนลูกอีก 5 คนแยกย้ายไปมีครอบครัวและอาศัยอยู่ที่อื่น แต่จากการสอบถามนายชัชวาล เบื้องต้น ก็ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนทำร้ายพ่อหรือทำให้พ่อเสียชีวิต แต่กลับอ้างว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้พ่อเป็นคนลากที่นอนของตัวเอง ออกมาวางไว้ที่หลังบ้าน แล้วตอนประมาณตี 3 พ่อก็จุดไฟเผาที่นอนที่ลากมาไว้หลังบ้าน แล้วบอกให้ตนคอยดูเดี๋ยวไฟจะลามไหม้บ้าน จากนั้นพ่อก็ขับรถจักรยานยนต์ออกไปข้างนอก แต่ไม่รู้ว่าพ่อไปไหน มารู้อีกทีก็ตอนมีเจ้าหน้าที่มาที่บ้านว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนฆ่าพ่อ แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อจึงนำตัวไปสอบที่โรงพัก

ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวนายชัชวาล ลูกชายคนที่ 5 ที่อาศัยอยู่กับผู้ตายไปสอบปากคำที่โรงพัก นายวีรวัฒน์ โสเพียร อายุ 50 ปี พี่ชายคนโตซึ่งเดินทางไปดูศพพ่อที่เกิดเหตุและมาที่บ้านด้วย ก็ได้พุ่งเข้าไปชกต่อยนายชัชวาล ด้วยความโมโห ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะรีบนำตัวขึ้นรถ ซึ่งจากการสอบถามนายวีรวัฒน์ พี่ชายคนโตว่าทำไมถึงเข้าไปชกต่อยน้องชาย พี่ชายก็บอกว่าตนเชื่อว่าน้องเป็นคนฆ่าพ่ออย่างแน่นอน เพราะพ่อเคยเล่าให้ฟังว่าทะเลาะกับน้องชายบ่อยครั้ง และน้องชาย เคยพยายามจะทำร้ายพ่อด้วย จนระยะหลังตนก็จะแวะเวียนมาดูพ่อที่บ้านเรื่อยๆ แต่ยังไม่รู้ว่าสาเหตุที่น้องจะฆ่าพ่อเป็นเพราะอะไรเพราะน้องยังไม่บอกอะไร

ด้านนายนัฐวัตร ปานเพรช อาสากู้ภัยบ้านสองเมือง เล่าว่า หลังได้รับการประสานให้ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ ว่าพบศพคนเสียชีวิตอาจจะถูกรถเฉี่ยวชน แต่เมื่อไปเห็นที่เกิดเหตุพบความผิดปกติหลายอย่าง ทั้งรถ จยย.ที่ล้มคว่ำอยู่ไม่ได้มีร่องรอยความเสียหาย กุญแจหมุนอยู่ในลักษณะปิด และเกียร์อยู่ในตำแหน่งเกียร์ว่าง ที่สำคัญพบรอยบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะด้านหน้า คล้ายถูกของแข็งทุบจนกระโหลศรีษะเปิด ทั้งยังมีรอยคล้ายของมีเฉือนที่ใบหน้า แทงคอและท้ายทอยอีกหลายแผล จากประสบการณ์ที่ทำงานกู้ภัยฯ เชื่อว่ารอยแผลดังกล่าวไม่น่าจะเกิดจากอุบัติเหตุรถชน น่าจะเป็นเหตุฆาตรกรรมอำพรางมากกว่า ซึ่งก็ต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพิสูจน์ และหาข้อเท็จจริงอีกครั้ง