ข่าวอัพเดทรายวัน

อำนาจเจริญ คุณยาย 84 ปีโดนหลอกให้ขายไม้ยางนาอายุกว่า 21 ต้น ยังจ่ายเงินไม่ครบ

อำนาจเจริญ คุณยาย84ปีโดนหลอกให้ขายไม้ยางนาอายุกว่า200ปี21ต้นยังจ่ายเงินไม่ครบหลบหนีเข้ากรีบเมฆลอยนวน ชาวบ้านเตรียมลงขันจ้างทนายสู้คดี วอนให้เจ้าหน้าที่ส่วนกลางมาสอบสวนให้ความเป็นธรรมเพราะไม่มั่นใจหน่วยงานในพื้นที่ ผู้ว่าบอกเรื่องกำลังดำเนินงาน

นายเอกสิทธิ์ รันตสุวรรณ ประธานกลุ่มอนุรักษ์ป่าอำนาจเจริญ เปิดใจว่าการลักลอบตัดไม้กระยางนากว่า1,000ต้นตลอดเวลา1ปีแจ้งความร้องทุกข์114วันยังไม่มีความคืบหน้าหลายหน่วยงานยังไม่สามารถสรุปการสืบสวนสอบสวนได้และมีผู้ใหญ่ในจังหวัดกล่าวอ้างว่าเป็นคดีไปแล้วไม่สามารถดำเนินการได้ชาวบ้านสงสัยว่าการที่กำนันถูกร้องเรียนทำไมไม่มีการสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ทั้งที่มีข่าวว่ามีคนโทรร้อง สส.ถึงการถูกข่มขู่ชาวบ้านบางส่วนไม่รู้สึกไม่ปลอดภัย


ชาวบ้านมีข้อสงสัยกับการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่หลายอย่างเช่นมีไม้หายจริงมีคนร้องทุกข์มีพยานว่ากำนันเรียกรับสิ่งของขณะมีการซื้อขายไม้ การลักลอบตัดไม้ห่างจากบ้านเรือนคนแค่1,000เมตรการโอนเงินค่าไม้ก็เป็นหลักฐานได้
นายอำเภอเป็นลูกพี่กำนันผู้ใหญ่บ้านทำไมไม่เรียกมาตบหาความจริงผู้ว่าฯสั่งคนโน้นคนนี้ลงพี้นที่มันไม่ได้ทำให้ชาวบ้านสบายใจขึ้นเลยป่าไม้แจ้งความไม้หายหรือยังแจ้งกี่ต้นมีเบาะแสไหมหรือว่าตืนมาเจอไม้หายเลยถ้าระดับจังหวัดหาโจรปล้นไม้ไม่ได้ก็ควรจะขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นที่มีศักยภาพกว่าความเดือดร้อนของชาวบ้านที่หวังจะได้รับความช่วยเหลือแต่กลับคำพูดของผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเมืองพูดแบบไม่คิดจะแก้ปัญหา ผิดหวังจริงๆ ชาวบ้านคุยกันว่าจะร่วมกันบริจาคเงินเพื่อจ้างทนายฟ้องเจ้าหน้ารัฐที่มีส่วนรวมและกานเซ็นชื่อการปฎิบัติหน้าที่ ชาวบ้านคุยกันไปก็นึกเสียใจที่เสียภาษีแล้วยังต้องมาเสียเงินฟ้องร้องอีกเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมถ้าเป็นแบบนี้ประชาชนจะอยู่กันยังไง
เรื่องโครงการทำถนนงบมาจากจังหวัด-มาอำเภอ-มาตำบลสิริเสนางมีการตรวจสอบหรือไม่หรือมีการรวมเช็นโดยใครบ้างทำไมกำนันถึงได้นำเครื่องจักรหนักเข้าบุกรุกทำลายทรัพย์สินสิ่งปลูกสร้างของชาวบ้าน

ก่อนทำถนนต้นไม้และความอุดมสมบูรณ์ยังอยู่ครบหลังจากโครงการทำถนนเสร็จต้นไม้ก็ถูกตัดชาวบ้านที่เห็นต่างพากันพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต่างเสียดายพร้อมกับสาปแช่งคนที่ทำการรวมหัวกันตัดไม้ทำลายป่าในครั้งนี้และขอให้กรรมนำเสนอง

และที่สำคัญบรรดาแม่ค้าพ่อค้าในตลาดกลางอำเภอเสนางคนิคม ติดกับศูนย์ราชการบอกว่ารถเทรลเลอร์หางยาวจะมาจอดพักกินข้าวเป็นประจำและจอดพักรถในรถมีไม้ขนาดใหญ่เห็นได้ชัดเพราะไม่มีผ้าคุมแม่ค้าพ่อค้าบอกต่ออีกว่าได้ถามคนขับรถไม่กลัวถูกจับเหรอด้านคนขับรถบรรทุกบอกว่าไม่เป็นไรเคลียร์นายแล้วนี่คือเสียชาวบ้านพูดล่าสุดตนทราบว่าชาวบ้านที่โดนหลอกให้ขายไม้ในที่สาธารณะติดกับที่ดินของตนเองเตรียมลงขันเพื่อจ้างทนายสู้คดีเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากภาครัฐ

ทางด้านคุณยายสีบู ทองแก้ว อายุ84ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ที่ 4 บ้านบกตำบลเสนางคนิคมอำเภอเสนางคนิคมจังหวัดอำนาจเจริญกล่าวว่าหากตนทราบว่าการขายไม้ยางในครั้งนี้มีความผิดแรกๆผู้ใหญ่บ้านก็ออกมาติดต่อประสานงานกับยายต่อจากนั้นก็มีป่าไม้ตามมาต้นก็ไม่รู้จะพูดอะไรโดยผู้ใหญ่บ้านได้โน้มน้าวบอกว่าเดี๋ยวนี้เขาปลดล็อคกันแล้ว ต้นยางนาที่อยู่ในพื้นที่โฉนดหรือนส.3 สามารถขายได้และรวมถึงที่อยู่ตรงกับพื้นที่ของยายก็ขายได้เช่นกัน ส่วนอยู่ในพื้นที่ของยายในนส. 3 และโฉนดจริงๆนั้นมีอยู่แค่ 3-4 ต้นนอกนั้นอยู่ริมห้วยหมดรวมเป็น21ต้นเขาก็บอกว่าขายได้ตนก็ตกลงขายในราคาตกลงกันว่าราคา 60,000 บาท แล้วก็เมื่อตัดต้นยางเสร็จก็จ่ายให้ยายแค่ 28,000 บาทส่วนที่เหลือไม่เห็นจ่ายยายเลยจนถึงวันนี้ อีกอย่างในระยะนี้ตนกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะตนอายุ 84 ปีแล้วไม่เคยขึ้นโรงขึ้นศาลไม่เคยที่จะโดนสอบสวน ถ้าต้นรู้ว่าตัดต้นไม้มันผิดตนไม่ขายแล้วตนไม่รู้จริงๆว่าไม้อยู่ตามริมคลองริมห้วยสาธารณะมันไม่ใช่ของยายยายไม่รู้จริงๆ เขามาบอกรวมๆว่าเป็นของยายหมดยายจึงหลงเชื่อ อย่างไรก็ตามยายให้พูดความจริงก็คือความจริงยายว่ายายไม่ผิดเพราะการมาซื้อไม้ในลักษณะตีรวมแบบนี้ มันเป็นการหลอกยายรู้ว่ามันผิดยายไม่ขายแน่นอน จึวขอความเป็นธรรมกับทางหน่วยราชการด้วยทุกวันนี้ตนกินไม่ได้นอนไม่หลับบวกกับอายุของตนก็ 84 ปีแล้วไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครวอนให้ภาครัฐสงสารคนแก่ด้วยบาปบุญมีจริงนะใครทำกับยายไว้จะได้รับผลกรรมนั้นแน่นอนทุกวันนี้ยายอยู่อย่างทรมาน และตนยังเกรงกลัวผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อีกด้วยตนขอให้ทางภาครัฐคุ้มครองยายด้วยยายไม่รู้เรื่องจริงๆว่าการขายไม้ในที่นาของตนจะมีความผิดถึงขนาดนี้ โดยที่เจ้าหน้าที่เขาก็บอกว่าขายได้ขายได้เจ้ากน้าที่ป่าไม้ก็ออกมาพร้อมกันพร้อมมีฆ้องมาตีกาปุ๊บปั๊บเลยขอให้ความดีของยายที่ยายทำมาคุ้มครองยายด้วยยายหมดที่พึ่งแล้ว เพราะมาบอกยายว่าต้นยางนาที่อยู้ตามริมห้วยเป็นของยายตามกฎหมายออกมาใหม่เขาปลดบ็อกกันหมดแล้วตัดขายได้เขาบอกยายอย่างนี้จริงๆ

ทางด้าน นายทวีป บุตรโพธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ ในขั้นตอนของการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่การพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดินและปริมาตรไม้ที่ตัดยังไม่สามารถทำ เพราะการดำเนินคดีมันเกิดขึ้นหลังจากที่เขาตัดไม้ไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามทางตำรวจก็จะพยามรวบรวมหลักฐานพยานในการดำเนินคดีกับผู้ทำผิดอยู่ ประชาชนไม่ต้องเป็นห่วงการที่ผู้สื่อข่าวถามว่าชาวบ้านที่ขายไม้โดยรู้เท่าไม่ถึงการต่างหวาดผวาว่าจะมีความผิดทางผู้ว่าตอบว่าเรื่องนี้หากไม่ผิดก็ไม่ต้องกังวนใจอะไรจงเขื่อมั่นในขบวนการ ยุติธรรมของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองและต้องไม่หวาดผวาว่าใครจะมาข่มขู่พี่น้องประชาชนได้ตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานทำงานอย่างตรงไปตรงมาผิดก็ว่าไปตามผิดถูกก็ว่าไปตามถูกจะไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นเด็ดขาด ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายบ้านเมืองจะอยู่เหนือกฎหมายไปไม่ได้เด็ดขาด/