ข่าวอัพเดทรายวัน

บุรีรัมย์ ผกก.สั่งระดมกำลังไล่ล่าผัวซาดิสฆ่าเปลือยเมียตายคาที่นอนรอยกัดทั่วร่างชาวบ้านแฉซ้อมเมียประจำถึงขั้นเทน้ำร้อนราดทั้งตัว

ศา ลจ.บุรีรัมย์ อนุมัติหมายจับผัวซาดิสฆ่าเมียตายเปลือยคาที่นอนรอยกัดทั่วร่างแล้ว ขณะ ผกก.สั่งจัดกำลังไล่ล่าแกะรอยวงจรปิดเส้นทางหลบหนีล่าสุดพบเบาะแสแล้ว ชี้แค่กัดไม่ทำให้ถึงตายคาดน่าจะถูกซ้อมซ้ำใน หรืออุดปากจมูกทำให้ขาดอากาศหายใจ ญาติและชาวบ้านแฉพฤติกรรมผัวโหดซ้อมเมียประจำถึงขั้นเทน้ำราดทั้งตัวเข้า รพ.มาแล้ว เคยเตือนให้เลิกแต่ไม่ฟัง ญาติเผา

จากกรณีที่มีพบศพนางกมลา กองไธสง หรือแดง อายุ 55 ปี เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา ในสภาพเปลือยกายบนที่นอนภายในบ้านพักในหมู่บ้านศรีษะแรด ต.พุทไธสง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวานนี้ (10 ก.ค.65) ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน เพราะสภาพศพเริ่มมีกลิ่นเหม็น จากการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวรฯ รพ.พุทไธสง พบมีรองเขียวช้ำที่เบ้าตา แต่ไม่มีบาดแผล มีเพียงร่องรอยการถูกฟันมนุษย์กัดบริเวณริมฝีปาก แก้มซ้าย ใบหู หัวนมทั้งสองข้าง รวมถึงตามลำตัวอีกหลายจุด และมีร่องรอยการมีเพศสัมพันธ์ด้วย ส่วนนายนิติพจน์ ลมไธสง อายุ 52 ปี สามีใหม่ผู้ตาย ซึ่งมีอาชีพรับจ้างทั่วไปและชอบดื่มสุรามึนเมา ที่มาอยู่กินกับผู้ตายแบบสามีภรรยาประมาณ 10 ปี ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยได้หายตัวไปพร้อมรถจักรยานยนต์ซาเล้ง ส่วนศพผู้ตายถูกส่งไปผ่าพิสูจน์ที่ รพ.บุรีรัมย์ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง

ล่าสุดวันนี้ (11 ก.ค.65) พ.ต.อ.สมยศ ฟื้นชัยภูมิ ผู้กำกับการ สภ.พุทไธสง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกระกายกำลังออกติดตามไล่ล่าตัวนายนิติพจน์ สามี ทั้งที่ภูมิลำเนาเดิมที่ อ.นาโพธิ์ และสถานที่ต่างๆ ที่คาดว่าจะหนีไปหลบซ่อนตัว รวมถึงแกะรอยภาพกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ซึ่งล่าสุดพบข้อมูลว่าผู้ต้องหาได้นำรถจักรยานยนต์ซาเล้งที่ขับหลบหนีไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่ร้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.นาโพธิ์ ก็ได้ส่งกำลังตำรวจไปติดตามแล้ว คาดว่าน่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ ประกอบกับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ได้อนุมัติออกหมายจับนายนิติพจน์ ผู้ต้องหาแล้ว ในข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย” ส่วนประวัติก็เคยถูกจับกุมคดีลักขโมยหลายครั้ง
ผกก.ยังระบุอีกว่า ร่องรอยฟันของมนุษย์ที่กัดตามร่างกายของผู้ตาย ไม่สามารถทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่จากการตรวจสอบก็ไม่พบร่องรอยบาดแผลอย่างอื่น จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายจนช้ำใน หรืออาจมีการใช้หมอนหรือสิ่งของบางอย่างอุดปากและจมูกจนทำให้ขาดอากาศหายใจเสียชีวิตมากกว่าแค่รอยกัด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง

จากการสอบถามนางดอกไม้ แก้วไธสง อายุ 70 ปี แม่เลี้ยงผู้ตาย บอกว่า นายนิติพจน์ เป็นสามีใหม่ของลูกสาว ได้อยู่กินกันประมาณ 10 ปีแต่นายนิติพจน์ มีนิสัยก้าวร้าวชอบดื่มสุราแล้วทำร้ายร่างกายลูกสาวบ่อยครั้งถึงขั้นเคยเทน้ำร้อนราดทั้งตัวจนผุพองจนต้องเข้า รพ. ก็เคยเตือนให้เลิกหลายครั้งแต่ลูกสาวก็ไม่เลิก จนสุดท้ายก็ต้องมาเสียชีวิตเพราะถูกสามีทำร้าย ก็เสียใจและอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวมาลงโทษตามกฎหมายให้ถึงที่สุด หากเป็นไปได้ก็อยากให้ตายตกตามกันไปเพราะทำร้ายลูกเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม

ขณะที่นายประพิศ เปรี่ยนไธสง เพื่อนบ้าน ก็เล่าว่า ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างรู้พฤติกรรมของฝ่ายชายดี ว่าเป็นคนชอบดื่มสุราแล้วมีอารมณ์รุนแรงซาดิส ชอบทำร้ายร่างกายภรรยาโดยเฉพาะหากจะมีเพศสัมพันธ์จะต้องซ้อมภรรยาก่อน ชาวบ้านต่างก็รู้แต่ไม่มีใครอยากจะยุ่งเกี่ยว เพราะเป็นเรื่องผัวเมีย ก็ไม่คิดว่าครั้งนี้จะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ก็อยากให้ตำรวจเร่งติดตาจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว จะได้ไม่ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก

ด้านนายวิชิต กมลมุณีรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านศรีษะแรด บอกว่า ที่ผ่านมาสองสามีภรรยาจะมีปากเสียงทะเลาะกันประจำ แล้วฝ่ายชายก็จะชอบตบตีภรรยาบ่อยครั้ง ที่ผ่านมาชาวบ้านก็จะไปแจ้งกับตนว่าสามีทำร้ายภรรยา ตนก็ทำได้แค่มาตักเตือนและปรามฝ่ายชายไม่ให้ก่อเหตุอีกเท่านั้น แต่ก็ยังก่อเหตุอีกเรื่อยๆ จนบางครั้งก็แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาระงับเหตุ แต่พอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาฝ่ายหญิงก็จะไม่เอาเรื่องฝ่ายชาย เจ้าหน้าที่ก็ทำอะไรไม่ได้ก็ได้แค่ตักเตือน จนในที่สุดก็ต้องถูกสามีทำร้ายจนเสียชีวิต ก็อยากให้ผู้ต้องหามามอบตัวและรับกรรมกับสิ่งที่ตัวเองทำ

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. หน่วยกู้ภัยฯ ได้นำร่างของกมลา กลับจากผ่าพิสุจน์ที่ รพ.บุรีรัมย์ เพื่อมาประกอบพิธีฌาปนกิจศพที่วัดศรีษะแรด และเวลา 16.30 น. ได้ประกอบพิธีฌาปนกิจศพ โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะ น.ส.พัชราพร ผู้เป็นลูกสาวที่ยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งก่อนที่จะนำร่างเข้าเตาเผาลูกสาวได้เกาะโรงศพของแม่ร้องไห้แทบขาดใจ สร้างความสลดใจแก่ญาติและผู้ที่มาร่วมงาน แต่ลูกสาวไม่ขอให้สัมภาษณ์เพราะยังทำใจไม่ได้
ขณะที่เพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันกับผู้ตายที่มาร่วมงานฌาปนกิจศพ ต่างเรียกร้องให้เร่งจับกุมตัวสามีโหดให้ได้โดยเร็ว และอยากให้ลงโทษสถานหนักหรือประหารชีวิตให้ตายตกไปตามกัน เพราะก่อเหตุฆ่าเพื่อนเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมทารุณ พร้อมเผยว่าเพื่อนๆต่างรู้ว่าสามีใหม่ของผู้ตายเป็นคนโรคจิต และมีพฤติกรรมอารมณ์รุนแรง และชอบลักขโมยของตามบ้านของคนอื่นบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่มีใครอยากจะยุ่งด้วย เพราะเห็นเป็นเรื่องในครอบครัว ก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุสลดขึ้นรู้สึกเสียใจและสงสารผู้ตายที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้