จากกรณีที่เกิดเหตุจับตัวประกันใน จ.ขอนแก่น และมีกระแสข่าวว่าผู้ก่อเหตุชื่อ นายสุนทร สานนท์ ซึ่งชื่อที่ปรากฎในข่าวเหมือนกับชาวสกลนครรายหนึ่ง ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการร้องขอว่าให้สื่อมวลชนช่วยแก้ไขชื่อผู้ก่อเหตุให้ถูกต้อง เพราะได้รับผลกระทบจากการนำเสนอข่าวดังกล่าว ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง บ้านเลขที่ 9 หมู่ 8 บ้านโคกถาวร ต.ขัวก่าย อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เพื่อพบนางวิลัยรัตน์ ฮุ่งโสภา อายุ 59 ปี พี่สาวของนายสุนทร สานนท์ อายุ 50 ปี เมื่อสอบถามข้อมูลทราบว่า ญาติยังงงกับเรื่องราวที่เกิดเพราะก่อนหน้านี้ได้ผู้ใหญ่บ้านโทรมาถามหานายสุนทร ว่าทำอะไร อยู่ที่ไหน จึงมีชื่อไปปรากฎตามสื่อ ว่าเป็นผู้ก่อเหตุจับตัวประกันที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งความจริงแล้วในช่วงเวลาเกิดเหตุ นายสุนทรกำลังนั่งสานไม้กวาดอยู่ใต้ถุนบ้าน ไม่ใช่ผู้ก่อเหตุตามที่มีการรายงานข่าวออกไป และนายสุนทรยังป่วยด้วยโรคประจำตัวแขนขาอ่อนแรง ไม่สามารถไปก่อเหตุได้แน่นอน ทางครอบครัวรู้สึกเสียใจที่เกิดความเข้าใจผิดว่านายสุนทรไปก่อเหตุที่ จ.ขอนแก่น จึงอยากให้สื่อมวลชนช่วยตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องและช่วยแก้ไขข่าวให้นายสุนทรด้วย
นายสุนทร สานนท์ กล่าวว่า ตนทราบเรื่องจากผู้ใหญ่บ้าน รู้สึกตกใจที่มีชื่อไปปรากฎตามสื่อ ทั้งที่ในเวลานั้นตนอยู่ที่บ้าน โดยส่วนตัวไม่รู้จักกับผู้ก่อเหตุ และไม่เคยไปที่ จ.ขอนแก่น ขอยืนยันว่าตนนั้นเป็นนายสุนทรตัวจริงตรงตามชื่อในข้อมูลที่รายงานข่าวออกไป แต่ไม่ได้ไปก่อเหตุดังกล่าว ส่วนในการทำธุรกรรมด้านเอกสารที่ผ่านมามีเพียงการสมัครโครงของรัฐและถ่ายเอกสารเท่านั้น กับอดีตภรรยานั้นเคยอยู่กินกันมา 20 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน แยกกันอยู่ได้ 3 ปี เพิ่งเซ็นใบหย่าได้ 2 เดือน ตอนนี้ไม่ได้ติดต่อกันแล้ว เลยไม่รู้ว่าชื่อตนเองไปโผล่เป็นคนก่อเหตุได้อย่างไร คาดว่าข้อมูลเจ้าหน้าที่อาจคาดเคลื่อน