ข่าวอัพเดทรายวัน

ศรีสะเกษ ปิคอัพซิ่งชนท้ายปิคอัพเจ็บสาหัส 3 ราย รถ จยย.พังยับเยิน

เมื่อเวลา 19.35 น. วันที่ 15 ก.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหลัก กม.ที่ 6 ถนนสายศรีสะเกษ- กันทรารมย์ ต.หนองแก้ว อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้เกิดเหตุรถยนต์ปิคอัพยี่ห้อนิสสันสีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ถษ 694 กรุงเทพมหานคร ชนติดอยู่กับรถยนต์ปิคอัพยี่ห้อโตโยต้าสีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน บธ 2253 กาฬสินธุ์ ซึ่งรถทั้ง 2 คันได้กระเด็นไปตกอยู่ข้างถนนสภาพรถยังยับเยิน ใกล้กันพบรถ จยย.ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น 115 I สีฟ้าคาดดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนตกอยู่บริเวณริมถนนสภาพรถพังเสียหายยังเยิน ซึ่งเจ้าหน้าที่พยาบาลจาก รพ.ศรีสะเกษ ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถานและพลเมืองดีได้ร่วมกันช่วยเหลือนำร่างของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากซากรถทั้ง 2 คัน โดยพบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 รายกันคือ 1. นายเจริญ วงศ์มาลัย อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/1 บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ปิคอัพโตโยต้า 2. นางชลิษา บุญแท้ อายุ 32 ปี โดยสารรถมากับนายเจริญ ขาข้างขวาหัก และ 3.นายลำดวน นารี อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 บ้านหนองปลาเข็ง ต.โพธิ์ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ปิคอัพยี่ห้อนิสสัน เจ้าหน้าที่ได้รีบนำตัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดส่งไปยัง รพ.ศรีสะเกษ เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วน

นายเจริญ วงศ์มาลัย อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/1 บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ปิคอัพโตโยต้า หมายเลขทะเบียน บธ 2253 กาฬสินธุ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเพิ่งเลิกจากการทำงานที่โรงน้ำแข็งแห่งหนึ่งในตัวเมืองศรีสะเกษ จากนั้น ได้ไปรับแฟนสาวที่ทำงานเป็นพนักงานขายอยู่ที่ร้านสังฆภัณฑ์แห่งหนึ่ง โดยได้นำเอารถ จยย.ของแฟนสาวขึ้นไปบรรทุกที่กระบะท้ายรถปิคอัพ และได้ขับรถออกจากตัวเมืองศรีสะเกษเพื่อที่จะเดินทางกลับบ้าน ซึ่งตนขับรถยนต์ค่อนข้างช้ามากเพราะว่ามีรถ จยย.อยู่ที่กระบะท้ายรถด้วย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าตนเห็นแสงสว่างของไฟรถยนต์พุ่งมาอย่างเร็วมากและได้ยินเสียงรถยนต์ชนท้ายรถปิคอัพของตนดังสนั่นหวั่นไหว แรงชนอย่างแรงทำให้รถของตนกระเด็นไปตกข้างถนนและ รถ จยย.ที่อยู่กระบะท้ายรถถูกชนกระเด็นไปตกอยู่ริมถนน ทำให้ตนและแฟนสาวได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนี้ พนักงานสอบสวน สภ.โพนเขวา อ.เมืองศรีสะเกษ จะได้ทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้เพื่อจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป