วันนี้ (19 ก.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าอาชีพส่วนใหญ่ของชาวจังหวัดสกลนครประกอบอาชีพเกษตรกรรม เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน ปริมาณน้ำที่เพียงพอและอุดมสมบูรณ์ต่างไม่รอช้าพากันเริ่มทำนาปีปลูกข้าวไว้ขายและบริโภค เมื่อเดินทางไปทางไหนตามท้องไร่ท้องนามักจะเห็นต้นกล้าข้าวเขียวขจีทอดยาวสุดสายตาพร้อมที่นำไปปักดำ โดยส่วนใหญ่เจ้าของที่นามักจะว่าจ้างเพื่อนบ้านหนุ่มสาวมาถอนต้นกล้าไปปักดำเพราะลำพังทำคนเดียวไม่ไหว ด้วยค่าแรงที่สูงขึ้นกว่าหลายปีที่ผ่านมา จึงเป็นช่วงที่ชาวบ้านสามารถหารายได้เลี้ยงครอบครัว โโยเฉพาะช่วงนี้ค่าครองชีพที่สูงเกือบเท่าตัว ส่งผลให้สินค้าอุปโภคบริโภคในครัวเรือนก็สูงขึ้นไปด้วย จึงเกิดอาชีพรับจ้างถอนต้นกล้าข้าว เช่น ที่นาในเขตตำบลนาหัวบ่อ อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร พบชาวบ้านที่ถูกว่าจ้างกำลังขะมักเขม้นก้มๆเงยๆถอนต้นกล้าข้าวมัดกองไว้ ก่อนจะหามไปปลูกในนาที่เตรียมน้ำและดินไว้แล้ว โดยการถอนกล้า จะนิยมถอนตอนกลางคืน ใช้ไฟโคมคาดที่ศรีษะ ก้มๆเงย ถอนต้นกล้าข้าวท่ามกลางความมืดมิดของท้องนา โดยชาวนาที่นี่ให้เหตุผลว่า ถ้าทำกลางวันจะแดดร้อน นี่เลยนิยมทำตอนกลางคืน บางรายจะแบ่ง จาก 1ทุ่มถึง 6 ทุ่ม หรือจะทำช่วง 6 ทุ่มถึง 6 โมงเช้าก็มี
นางสายสมร แหลวแตว อายุ 50 ปี ชาวบ้านนาดี กล่าวว่า อาชีพถอนต้นกล้าตอนนี้กำลังไปได้สวยเพราะเจ้าของที่นาส่วนใหญ่มาว่าจ้างจะเป็นคนสูงอายุและมีที่นาหลายไร่ ต้นกล้าข้าวที่จะนำไปปักดำจะต้องถูกถอนออกก่อน ดังนั้นจะต้องมีแรงงานมาเกี่ยวข้องจึงเกิดการว่าจ้างขึ้นและที่สำคัญชาวนาที่นี่มักจะถอนกล้าข้าวในตอนกลางคืน สำหรับค่าแรงที่ว่าจ้างในระแวกนี้ถือว่าสูงกว่าที่อื่น โดยมัดต้นกล้าข้าวประมาณ 2 มือโอบกำ ตกอยู่ที่มัดละ 5 บาท ซึ่งต่างจากปีที่ผ่านมา มัดละ 2- 3 บาทเท่านั้น ซึ่งวันนี้ตนถอนต้นกล้าต้นกล้าข้าวได้ 153 มัด หากใครขยันได้ถึง 200 มัด จึงทำให้มีรายได้ต่อคนไม่ต่ำวันละ 600-1,000 บาทกันเลยทีเดียว โดยวันนี้ตนมีรายได้ไปแล้ว 700 กว่าบาท ดีกว่าค่าแรงขั้นต่ำ
นอกจากนี้แล้วที่นี่มักจะนิยมจ้างแรงงานปักดำนาในช่วงกลางวันในเวลา 08.00 -12.00 น.ในราคารายละ 200 บาท โดยต้องมีข้อแม้ว่าไม่เลี้ยงข้าวเที่ยง เพราะถ้าจ้างงานทั้งวันจะตกอยู่ที่ 400-450 บาทต่อหัว และเจ้าของนาต้องเลี้ยงข้าวเที่ยงและมีเครื่องดื่มบำรุงกำลังแถมได้วยประกอบอากาศที่ร้อนอบอ้าว ในช่วงบ่ายจะไปปริมาณน้อย ชาวนาที่นี่เลยจ้างงานเฉพาะตอนเช้า ซึ่งส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนเม็ดเงินในชุมชนในช่วงการทำนาปีในปีนี้