ข่าวอัพเดทรายวัน

มหาสารคาม มหาลัยขึ้นราคาแผงขายอาหารตลาดน้อย เดือดร้อนทั้งพ่อค้าแม่ค้า นิสิต

ม๊อบพ่อค้าแม่ค้าในตลาดน้อยบุกประท้วงผู้บริหาร ม.มหาสารคามกรณี จะถูกไล่ที่ มมส.จะเอาพื้นที่ตลาดไปประมูลใหม่ ขึ้นค่าเช่า 2 เท่า พ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ตลาดน้อยกำลังถูกลอยแพ เพราะไม่มีเงินมาประมูลสู้

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 กรกฎาคม 2565 ที่บริเวณตลาดน้อย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (เขตขามเรียง) อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในตลาดน้อยกว่า 300 ร้านค้า รวมตัวกันหยุดขายอาหาร 1 วัน พร้อมเดินขบวนจากตลาดน้อยไปที่หน้าอาคารบรมราชกุมารี ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร เพื่อเรียกร้องขอพบผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ภายหลังจากที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องการยกเลิกสัญญาเช่าเดิม การขึ้นค่าเช่าแผงค้า และเปิดประมูลใหม่ทั้งหมด ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่เพิ่งจะฟื้นตัวจากโควิด-19 ในรอบ 2 ปี ได้รับผลกระทบอย่างมาก

โดยกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเริ่มรวมตัวกันที่บริเวณตลาดน้อย พร้อมมีป้ายประท้วง เรียกร้องข้อความต่าง ๆ อาทิ เราไม่เอาประมูล, หยุดโควิด 2 ปี เปิดร้านอีกทีโดนเท, “พนูนํ ปณฺฑิโต ชีเว” ผู้มีปัญญาพึงเป็นอยู่เพื่อมหาชน, ทำรักมหา’ลัย แต่มหา’ลัยไม่รักเรา เป็นต้น ก่อนจะเดินเคลื่อนขบวนมายังหน้าอาคารบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นที่ทำงานของรองศาสตราจารย์ประยุกต์ ศรีวิไล อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เพื่อขอให้อธิการบดีและคณะผู้บริหารลงมาพบและพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้า ให้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น

นายชนะพงษ์พันธ์ แพงวิเศษ ตัวแทนกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดน้อย กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางพ่อค้าแม่ค้าต้องประสบกับวิกฤตโควิด-19 ตลอด 2 ปีครึ่ง เมื่อทางมหาวิทยาลัยฯ มีการเปิดภาคการศึกษาแบบ On site กำหนดเปิดเรียน 24 มิถุนายน ที่ผ่านมา ก็ทำให้มีนิสิตเดินทางมาเรียนมากขึ้น พอที่จะให้พ่อค้าแม่ค้าที่มาขายอาหารและเครื่องดื่มให้กับนิสิต พอที่จะลืมตาอ้าปากได้ ผ่านมาเพียง 20 กว่าวัน เหลือเวลาอีกเพียง 2 เดือนก็จะหมดสัญญาเช่าพื้นที่ โดยทางมหาวิทยาลัยฯ ได้ยกเลิกการต่อสัญญา และเปิดให้มีการประมูลเสนอราคาค่าธรรมเนียมในการใช้พื้นที่ เพื่อประกอบกิจการร้านค้าภายในมหาวิทยาลัยฯ ทำให้พ่อค้าแม่ค้าได้รับผลกระทบอย่างหนัก มีการปรับขึ้นค่าเช่าแผงจากเดิม 100% เช่น ค่าล็อกอาหารตามสั่ง ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว จากเดิมค่าล็อกเดือนละ 6,000 บาท ค่าน้ำค่าไฟค่าส่วนกลางต่างหาก ปรับเป็นเดือนละ 12,000 บาท ถ้าเป็นล็อกตรงกลางล็อกใหญ่ เดือนละ 3,000 ปรับเป็น 6,000 บาท ล็อกเล็กล็อกละ 1,500 ปรับเป็น 3,000 ส่วนโซนปิ้งย่าง หน้าร้านแคบ เพียง 1.9 เมตร แต่ล็อกยาวลึกเข้าไปด้านในไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์ ล็อกละ 1,500 บาท ปรับขึ้นเป็น 7,000 บาท พ่อค้าแม่ค้าได้รับ0กระทบอย่างมาก จะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย เพราะหยุดยาวจากโควิด-19 นิสิตเรียนออนไลน์ เราก็ไม่ได้ขายของมา 2ปีครึ่ง พอเพิ่งจะเปิดเรียนได้เพียง 20 กว่าวัน (เปิดเรียน On site 24 มิถุนายน 2565) ก็ต้องมาเจอแบบนี้

ส่วนข้อเรียกร้องของทางพ่อค้าแม่ค้า ตอนนี้มีข้อเรียกร้องอยู่ 4 ข้อ คือ 1.ต้องไม่มีการประมูล หรือหากจะประมูลก็ขอให้ประมูลล็อกที่ว่าง 2.ขอให้พิจารณาค่าล็อกใหม่ เราเข้าใจว่าตลาดน้อยมีการปรับปรุง ทำให้ดูดีสวยงามขึ้น จึงต้องจ่ายแพงขึ้น แต่ขอให้มีการปรับขึ้นแบบขั้นบันได ไม่ใช่ปรับขึ้นทีเดียว 100% เราจะเอาเงินมาจากไหนในเมื่อไม่ได้ขายของมา 2 ปีกว่า เพราะเจอโควิด 3.เงินค้างค่าประกันสัญญาของพ่อค้าแม่ค้าที่ทางมหาวิทยาลัยฯ ค้างจ่าย ตั้งแต่ปี 62 เหตุเกิดจากการทุจริตของเจ้าหน้าที่ ไม่เอาเงินเข้าระบบ เงินส่วนที่ไม่มีใบเสร็จก็แล้วไป แต่เงินประกันสัญญาจะมีใบเสร็จอยู่แล้ว ก็ขอเงินคืนให้กับพ่อค้าแม่ค้าด้วย โดยทางมหาวิทยาลัยฯ อ้างว่ากำลังดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่เอาเงินไป ต้องรอก่อนเพราะว่าทางมหาวิทยาลัยฯ ไม่มีเงินมาจ่ายให้ และข้อ 4. ทางพ่อค้าแม่ค้าขอต่อสัญญาให้ผู้ประกอบการการรายเก่า 5 ปี

นิสิต เปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วยกับการส่วนตัว และเห็นใจแม่ค้าเพราะ จะต้องค่าใช้จ่ายหลายอย่าง ค่าเช้าต่อเดือนค่าประกันารายปี หากมีการประมูลถ้าหากประมูลไม่ก็ต้องเสี่ยง ถ้าเงินไม่ถึงก็ประมูลไม่ได้ก็ต้องพื้นที่ทำมาหากิน ซึ่งตลาดน้อยสำคัญกับนิสิตมาก เปรียบเสมือนครัวให้กับนิสิต นึกอะไรไม่ออกเดินไปซื้อที่ตลาดน้อยอาหารทีตลาดน้อยอถูกมาก ถูกกว่าข้านอกมกา ยิ่งในช่วงนี้ ที่ข้างนอกราคาอาหารน้ำปรับราคาขึ้นสูงมากเป็น 50-60 บาท ซึ่งข้างนอกเงิน100บาทได้ไม่กี่อย่าง แต่ที่ตลาดน้อยถูกมาก ข้าวลาดแกงจานละ20-25 บาทหากพอรับได้ ซึ่งหาที่ไหนไม่ได้แล้วจะปรับเป็น30บามพอรับได้ ถ้าร้านข้างนอก 50-60 ซึ่งตนเองเห็นใจแม่ค้าเป็นอย่างมากจากการที่ตนเองไปสอบถาม บางคนต้องไปกู้เงินมาหรือเอาที่ไปจำนอง เพื่อที่จะเอาเงินมาสู้

แม่ค้าตลาดน้อย เปิดเผยว่า แต่เดิมสร้างตลาดเพื่อลดปัญหาเกิดปัญหาลดอุบัตินอกพื้นที่ไม่ให้ออกไปข้างนอก เลยมาสร้างตลาดน้อยโดยเพื่อให้พ่อค้ามาขายของ โดยเป็นชาวบ้าน เดือดร้อนเพราะชาวบ้านที่มาขายในตลาดน้อย คือคนในพื้นที่ อยู่ๆ วันหนึ่งมหาลัยยุบโรงอาหารกลางตลาดน้อย ให้โรงอาหารกลางมาอยู่กับตลาดน้อย และขายได้ทั้งวันเมื่อก่อนขายได้เฉาพตอนเย็น แลมาสร้างปรับปรุงตลาดน้อยให้โดยมีโครงหลังคาให้ดูดี และมีการปรับค่าเช่า แต่ก็ยอมเสีย แต่ไม่เคยมีการประมูล เข้ามาตั้งแต่ต้นอยู่มา10-15ปี ล่าสุดบอกให้เราออกทั้งหมดและมาบอกว่าให้มีการระมูล ค่าเช่าขึ้นจากเดิม 2เท่า

ตลาดน้อยเป็นตลาดที่อยู่คู่กับมหาลัยวิทยาลัยมหาสารคามมานานและเป็นสถานที่ที่นิสิตมาใช้บริการมากเนื่องจากอยู่ในมหาลัยมาง่ายมีร้านอาหารมากมายให้เลือกรับประทานครบทุกอย่างทั้งอาหารคาว อาหารหวาน ขนม ผลไม้ น้ำปั่น อาหารไทย อีสาน ราคาถูกและสะอาด ตลาดน้อยจึงเป็นพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นิสิตและบุคลากร