ยายร่ำไห้น้อยใจหลานสาวลูกครึ่งวัย 17 กล่าวหาทุบตี ทั้งที่อบรมสั่งสอนด้วยความรักและห่วง เพราะหลานเอาเงินที่พ่อส่งมาให้ 4 หมื่นไปใช้จนหมดและเตือนเรื่องอย่าชาร์ทปลั๊กไฟเล่นโทรศัพท์กลัวช็อต ล่าสุดให้หลานไปอยู่บ้านทวดเพื่อความสบายใจทั้งสองฝ่าย ด้าน ผญบ.เผยรับน้องมาดูแลวันที่ถูกยายตีจริงเพราะเป็นเพื่อนกับลูกชาย พมจ.เตรียมลงพื้นที่หาทางออกไม่ให้เกิดปัญหารุนแรงในครอบครัว
วันที่ 21 ก.ค.65 ความคืบหน้ากรณีที่เพื่อนบ้านร้องเรียนว่ามียายแท้ๆ คนหนึ่งทุบตีหลานสาวลูกครึ่งไทย-อังกฤษ อายุ 17 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เป็นประจำตลอด 2 ปี จนมีรอยเขียวช้ำตามร่างกาย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของนางยาว (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นยายที่ถูกกล่าวหาอีกครั้ง พบว่ายายอยู่บ้านเพียงคนเดียวแต่ไม่เจอหลานสาวลูกครึ่ง ซึ่งคุณยาย บอกว่าได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับลูกสาวที่อยู่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นแม่ของน้องโรส ก็บอกว่าให้น้องไปอยู่ที่บ้านทวด ก่อน เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย ทั้งตัวหลานที่ไม่อยากกลับบ้าน และยายเองก็กลัวจะถูกกล่าวหาว่าทำร้ายหลานอีก ขณะที่สอบถามคุณยายก็ร้องไห้ บอกว่ารู้สึกน้อยใจที่หลานกล่าวหาว่าตนเองทุบตี ทั้งๆ ที่หลังจากพ่อแม่เขาแยกทางกัน ตนก็ดูแลหลานเป็นอย่างดีมาตลอด แต่ในฐานะที่เป็นยายซึ่งเป็นผู้ปกครองที่ดูแลหลาน เมื่อเวลาหลานทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมก็ต้องมีการว่ากล่าวตักเตือนบ้าง ส่วนที่หลานบอกว่าตนเองตีหลายครั้งนั้นไม่เป็นความจริง ยืนยันว่าตีแค่ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกตีเมื่อประมาณปีที่แล้ว เนื่องจากพ่อของน้องโรส ซึ่งอยู่ประเทศอังกฤษ ส่งเงินมาให้หลานไว้ใช้จ่ายและไปโรงเรียน แต่หลานเอาไปใช้กับลูกผู้ใหญ่บ้านซึ่งคบหากันเป็นแฟน จนไม่กี่วันเงินเหลือแค่ 3,000 บาท พอตนรู้จึงต่อว่าและใช้มือตีหลานเพื่อสั่งสอนแต่ไม่ได้รุนแรง ส่วนที่ใช้หนังสติ๊กยิงก็แค่ยิงใส่สังกะสี เพราะโกรธลูก ผญบ.ที่มาคบหากับหลานแล้วพากันใช้เงินจนหมด แต่ไม่ได้โดนใคร และล่าสุดเมื่อ 3 – 4 วันที่ผ่านมา ก็เตือนหลานเรื่องอย่าเสียบชาร์ทไฟแล้วเล่นมือถือไปด้วย เพราะปลั๊กสามตามันเก่าแล้วกลัวว่าจะช็อต แต่หลานก็ไม่ฟังแถมทำประชดเอาปลั๊กไฟไปชาร์ทเล่นในที่นอนด้วย ทั้งยังด่าตนด้วยถ้อยคำหยาบคาย จนทนไม่ไหวจึงทุบปลั๊กไฟสามตาจนแตกแล้วเอาสายไฟฟาดที่ขาหลาน แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำรุนแรงแค่โมโหที่หลานพูดไม่เชื่อฟัง ก็ทำโทษตามประสายายที่อบรมหลานเท่านั้น
ด้านนายลอย เสาเปลีย ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 บอกว่า วันที่น้องถูกยายตีตนได้ไปรับน้องมาดูแลที่บ้านจริง เนื่องจากน้องเป็นเพื่อนกับลูกชาย แต่ก็ได้มีการโทรพูดคุยกับแม่ของน้องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังแม่น้องก็อนุญาตให้มาอยู่ด้วยคืนหนึ่ง เพราะไม่อยากให้น้องหนีเตลิดไปที่อื่น พอวันรุ่งขึ้นน้องก็ไปเรียนตามปกติ ตนก็ยอมรับว่าน้องเป็นคนดื้อพูดไม่เชื่อฟังจริง ก็ได้อบรมน้องไปเหมือนกัน ก่อนที่น้องจะไปอยู่ที่บ้านทวด ส่วนที่ยายบอกว่าน้องเอาเงินที่พ่อส่งมาให้ไปใช้จ่ายกับลูกชายของตนเองนั้น ก็ยอมรับว่าใช้ด้วยกันจริงแต่เขาก็ไม่ได้บอกให้ผู้ใหญ่รับรู้ พอมารู้ทีหลังตนก็ได้บอกกับแม่ของน้องไปแล้วว่าในส่วนที่ลูกชายตนเอามาใช้ก็จะทยอยใช้คืนให้
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นก็ได้ประสานไปยัง อำเภอ และ พมจ.แล้ว คาดว่าจะลงพื้นที่เพื่อมาสอบถามข้อมูลและหาทางออกร่วมกันในวันพรุ่งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงบานปลายในครอบครัว