ข่าวอัพเดทรายวัน

บุรีรัมย์เจ้าของบ้านงงเจอหมายศาลยึดรถแปะหน้าบ้านทั้งที่ชื่อที่อยู่ไม่ตรงเชื่อติดผิดหลังวอน จนท.ชี้แจง

สาวเจ้าของบ้านที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ทั้งงงและตกใจออกไปขายของเพื่อนบ้านโทรบอกมีหมายศาลสั่งยึดรถยนต์ฐานผิดนัดชำระแปะประตูหน้าบ้าน รีบขับรถมาดูพบชื่อที่อยู่ไม่ตรงและยันคนในบ้านไม่เคยมีคดีหรือเป็นหนี้ เชื่อปิดหมายผิดบ้าน หลังโพสต์เฟสมีผู้หญิงขับเก๋งมาพูดแค่ “อุ๊ยปิดผิดหลัง” ก่อนแกะหมายออกแล้วขับรถไป ไม่ชี้แจงหรือขอโทษสักคำ

เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2565 ได้มีผู้ใช้ Facebook ชื่อพนิดา อรุณศรี โพสต์ภาพหมายศาลที่แปะไว้ประตูหน้าบ้าน พร้อมข้อความว่า “บ้านนี้ไม่มีคนชื้อนี้นะค่ะ บ้านฉัน บ.95 ม.5 จ้า ใครมาแปะไว้นะอยากเห็นหน้าเด้ ตาบ่เบ่งติ รถเก่งสีขาว ถ่ายรูปบ้านไปดาอีก แบบนี้ฟ้องได้ไหมค่ะ”

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบยังบ้านหลังดังกล่าวตามที่มีการโพสต์ในเฟสบุ๊ก ก็พบ น.ส.พนิดา อรุณศรี อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นผู้โพสต์และเป็นลูกสาวเจ้าของบ้านที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวกับสามี ได้ชี้ให้ดูหมายศาลที่ถูกแปะเอาไว้ที่หน้าบ้าน โดยในหมายศาลดังกล่าวระบุว่า “ตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล ที่บังคับให้จำเลยส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อแก่โจทย์ในสภาพเรียบร้อยใช้การได้ดี หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทน 830,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษาเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทย์ ให้จำเลยชำระค่าเสียหายค่าขาดประโยชน์ 45,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 18 เมษายน 2565) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทย์ และให้จำเลยชำระค่าขาดประโยชน์เดือนละ 3,500 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปแต่ไม่ให้เกิน 12 เดือน กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทย์เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้แทนตามจำนวนทุนทรัพย์ที่โจทย์ชนะคดี โดยกำหนดค่าทนายความให้ 3,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีให้เป็นพับ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ให้ท่านปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือคำสั่งที่กล่าวแล้วภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับคำบังคับนี้เป็นต้นไป ถ้าไม่ปฏิบัติตามคำบังคับภายในระยะเวลาหรือเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้น จะต้องถูกยึดทรัพย์ หรือถูกจับและจำขังดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง” พร้อมระบุชื่อที่อยู่จำเลยในหมายดังกล่าวด้วย

แต่จากการตรวจสอบทั้งชื่อที่อยู่ในหมายศาลที่ถูกแปะเอาไว้ ไม่ตรงกับชื่อ สกุลของคนที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว และที่อยู่ก็เป็นคนละหมู่บ้านกัน ซึ่ง น.ส.พนิดา ลูกสาวเจ้าของบ้านบอกว่า บ้านหลังดังกล่าวแม่มีชื่อเป็นเจ้าบ้าน แต่ปัจจุบันให้ตนและสามีอาศัยอยู่ เพราะแม่ไปขายของอยู่ที่ร้านและพักอยู่ที่ร้าน แต่ยืนยันว่าคนในบ้านไม่ได้มีคดีหรือติดค้างค่างวดรถยนต์อย่างแน่นอน และเท่าที่ดูในหมายเชื่อว่าน่าจะเป็นการแปะหมายผิดคนผิดบ้านมากกว่า จากกรณีดังกล่าวก็ทำให้คนใจบ้านตกใจและเสียหายเพราะชาวบ้านก็เห็นว่ามีหมายมาแปะที่หน้าบ้าน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงด้วย ว่าจริงๆ แล้วขั้นตอนการปิดหมายอะไรต่างๆ ในลักษณะนี้หากเจ้าของบ้านไม่อยู่ ควรจะถามผู้ใหญ่บ้าน หรือชาวบ้านในหมู่บ้านหรือไม่ว่าบ้านหลังที่จะติดหมาย เป็นบุคคลที่มีชื่อในหมายหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด อย่างไรก็ตามหลังจากที่โพสต์ลงในเฟส ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งขับรถเก๋งสีขาว มาแกะหมายศาลดังกล่าวออก และบอกว่า “อุ๊ยปิดผิดบ้าน” แต่ไม่ได้ชี้แจงหรือขอโทษอะไร

ด้านนางบังอร น่วมยิ้ม เพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. วานนี้ (3 ส.ค.65) ได้รถเก๋งสีขาวซึ่งตนไม่รู้ว่ายี่ห้ออะไร มาจอดที่หน้าบ้านของ น.ส.พนิดา จากนั้นก็มีผู้หญิงลงมาจากรถแล้วเดินเข้าไปในบ้าน นำกระดาษสีขาวไปแปะไว้ที่หน้าประตูบ้าน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นใครแล้วนำกระดาษอะไรมาปิด เพราะเขาไม่ได้มาถามอะไร จึงรีบโทรศัพท์ไปบอก น.ส.พนิดา เพราะไม่รู้ว่าเป็นใครหรือเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ เพราะทุกวันนี้มิจฉาชีพเยอะมากและมาในหลากหลายรูปแบบ กระทั่ง น.ส.พนิดา มาถึงแล้วไปดูถึงรู้ว่าเป็นหมายศาลแต่ชื่อและที่อยู่ก็ไม่ตรงกับคนในบ้านเลย จึงคิดว่าน่าจะเป็นการแปะหมายผิดบ้าน จากกรณีดังกล่าวก็อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ทำงานให้รอบคอบมากกว่านี้ ยิ่งการปิดหมายสำคัญแบบนี้น่าจะแจ้ง ผญบ.หรือสอบถามคนใกล้เคียงก็ได้เพื่อจะได้ไม่ผิดพลาด