วันที่ 4 สิงหาคม 2565 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองย่างชิ้น อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) นครพนมลงพื้นที่มอบสิ่งให้ความช่วยเหลือครัวเรือนเป้าหมาย ตามโครงการบูรณาการขจัดความยากจนและพัฒนาคุณภาพคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นครพนม สังคมอุดมสุข ทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ปี 2565 เพื่อขจัดปัญหาความยากจนให้กับคนนครพนม ซึ่งตามระบบการพัฒนาคนแบบชี้เป้า Thai People Map and Analytics Platform : TPMAP ข้อมูล ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2565 จังหวัดนครพนม มีเป้าหมายทั้งสิ้น 6,390 ครัวเรือน
นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า คนเราหลัก ๆ ต้องการอยู่ 4 อย่าง คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค นอกจากนั้นจะมีมิติความต้องการด้านอื่น ๆ เติมเข้ามา เช่น การศึกษา เครื่องอำนวยความสะดวก ซึ่ง ณ ปัจจุบันหลายคนมีความเดือดร้อน เพราะไม่สามารถช่วยเหลือตนเองให้มีความต้องการ 4 อย่างที่เพียงพอได้ ดังนั้นจังหวัดนครพนมจึงได้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขึ้นมา เพื่อให้สอดคล้องกับศูนย์ที่ทางรัฐบาลจัดตั้งขึ้น
โดยมีคณะกรรมการบริหารศูนย์ที่มาจากส่วนราชการต่าง ๆ สำหรับวันนี้ทีมคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) นครพนม ภายใต้การนำของคลังจังหวัดนครพนม ได้ร่วมกันเดินทางมามอบสิ่งของช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายที่รับผิดชอบ ตามภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายคือ 1 ส่วนราชการ 1 ตำบล ที่มีการคัดเลือกหาครอบครัวที่มีความเดือดร้อนจำเป็นเร่งด่วนมาจัดลำดับไว้แล้ว พร้อมกับการลงพื้นที่บ้านเพื่อดูสภาพความเป็นจริงเพื่อร่วมกันวางแผนแก้ไขปัญหาในส่วนอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความยั่งยืนตลอดไป เพราะการมอบสิ่งของเพียงอย่างเดียวพอสิ่งของหมดก็จะวนกลับมาที่เดิม แต่ถ้าเราสามารถทำให้ครัวเรือนเป้าหมายมีการพัฒนาและสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยตนเองตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจะดีที่สุด ซึ่งทั้ง 8 ครัวเรือนก็จะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพ เพราะฉะนั้นการวางแผนก็จะแตกต่างกันออกไปด้วยเช่นเดียวกัน เช่น ครัวเรือนที่เป็นคนพิการ ก็มีการหาทางออกให้ด้วยการพัฒนาสภาพห้องน้ำให้มีความเหมาะสมและมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น มีการหาแนวทางในการฝึกอาชีพ ที่จะทำให้ผู้พิการสามารถทำได้โดยไม่ฝืนสภาพร่างกายตัวเองเพื่อที่จะมีรายได้เป็นของตัวเอง ขณะที่อีกครัวเรือนที่เป็นผู้สูงอายุในส่วนนี้ก็มีการวางแผนในเรื่องการดูแลสุขภาพให้โดยจะมีหน่วยสาธารณสุขและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาสนับสนุนเกี่ยวกับการดูแล ในส่วนของแหล่งอาหารก็มีการแนะนำให้ทำการปลูกพืชผักสวนครัวรั้วกินได้ เป็นการเกษตรในครัวเรือนที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรงแต่มีอาหารรับประทานตลอดทั้งปี หรือครัวเรือนที่อยู่กัน 2 ยายหลาน ก็มีการวางแผนในเรื่องการศึกษาของหลานและเรื่องอาชีพจักรสานให้เพราะมีความสามารถด้านนี้อยู่แล้วโดยจะมีการสนับสนุนเครื่องมือเพื่ออำนวยความสะดวกในการผลิตสินค้าให้ได้จำนวนมากขึ้นในเวลาเท่าเดิม ก็จะทำให้ครัวเรือนนี้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นสามารถดูแลตัวเองได้โดยไม่ลำบาก เป็นต้น