วันที่ 7 สิงหาคม 65 ร.ต.อ.สัตยา คำวงษา รองสารวัตรสอบสวน สภ.นาหว้า จ.นครพนม ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์กระบะทับเด็กที่หน้าบ้าน เลขที่ 97 ม.3 บ้านเสียว ต.บ้านเสียว อ.นาหว้า จ.นครพนม จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที ที่เกิดเหตุุพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ เชฟโรเรทสี่ประตู สีแดง ทะเบียน กน 7738 สกลนคร จอดอยู่หน้าบ้านดังกล่าวทราบว่าคนเจ็บคือ เด็กหญิงเติมตังค์ อายุประมาณ 1 ปี 8 เดือน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอำเภอนาหว้าก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางมาถึงและต่อมาเสียชีวิต จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าคนขับรถคือนายเอนก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี เป็นปู่ของผู้เสียชีวิต โดยขณะเกิดเหตุ นายอเนก และภรรยาคือนางประไพ กำลังจะขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวไปซื้อของมาขายที่บ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ ขณะถอยรถออกจากบ้าน ไม่เห็นว่าเด็กหญิงเติมตังค์นั่งเล่นอยู่ที่กองทรายกองทรายหน้าบ้านเจนเกิดเหตุทับตัวเด็กหญิงเติมตังค์ จนแน่นิ่งไป หลังเกิดเหตุขับรถทับหลาน นายเอนกเกิดอาการสติแตก เอาขวดฟาดหัวตัวเองแล้ววิ่งเอาหัวชนกำแพงบ้านจนเลือดออกหลังจากนั้นก็วิ่งเข้าไปในห้องนอนแล้วล็อคประตูขังตัวเองอยู่ในห้อง จึงเข้าตรวจสอบที่ห้องนอนพบนายอเนก ใช้เชือกผูกคอกับวงกบหน้าต่างเสียชีวิตไปอีกคนหนึ่ง
นางใส (สงวนนามสกุล) อายุ 78 ปี แม่ยายของนายอเนก เปิดเผยว่าหลังเกิดเหตุนายเอนก ขับรถทับหลานตัวเองจนเสียชีวิต ก็ทำใจไม่ได้จนสติแตกเสียใจอย่างหนักนอนเกลือกกลิ้งไปกับพื้นหลังจากนั้นก็เอาขวดเหล้าฟาดหัวตัวเอง และเอาหัวโขกกับเสาบ้านจนเลือดออก ขณะนั้นทุกคนก็สาละวนอยู่กับคนเจ็บคือ เด็กหญิงเติมตังค์ หารถนำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ตนก็ได้แต่ห้ามปรามลูกเขยว่าหยุดได้แล้วอย่าทำร้ายตัวเองอีกเลย แต่นายเอนก ไม่หยุดวิ่งเอาหัวชนกำแพงอีกแล้วเข้าห้องขังตัวเองอยู่ในห้อง จนเพื่อนบ้านและญาติๆ ที่ทราบเหตุพากันมาที่บ้านตนก็ให้ไปดูนายอเนกในห้องก็พบว่านายเอนก ผูกคอแน่นิ่งไปแล้ว
นางใส กล่าวเพิ่มเติม ว่าน้องเติมตังค์ เป็นบุตรของนางวารุณี (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ปกติจะชอบนั่งเล่นทรายอยู่ที่กองทรายหน้าบ้านช่วงเกิดเหตุก็มานั่งเล่นทรายอยุ่ตามประสาเด็ก ขณะที่ปู่กับย่าจะพากันไปตลาดเพื่อจะซื้อของมาขายที่ร้านด้วยความรีบร้อนไม่ได้ดูว่า หลานนั่งเล่นอยู่ที่กองทรายจึงถอยรถทับหลานจนเสียชีวิต ด้วยความเสียใจที่พลาดพลั้งทำหลานเสียชีวิตก็ตัดสินใจผูกคอตายตามในที่สุด