เห็นผลทันตา! ป้าชาวนาวัย 59 ชาวอ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ จุดธูปขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้ได้ตัวคนร้ายขโมยข้าวเปลือกหายเกลี้ยงยุ้งกว่า 2 ตัน ตกบ่าย ตร.ตามรวบได้ทันควันที่แท้เป็นหญิงวัย 45 อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน อ้างนำไปขายเอาเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว
วันที่ 20 ส.ค.65 ร.ต.อ.ชัยรัตน์ บุญชู รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ ได้นำตัวนางนิตย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ชาวบ้านตะโก ต.อีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ ที่ถูกจับกุมไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังได้ก่อเหตุลักขโมยข้าวเปลือกของ นางประพง สมสี อายุ 59 ปี ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันหายไปกว่า 2 ตันจนหมดยุ้ง โดยได้แอบเข้าไปขโมยตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ค. 65 บรรจุใส่ถุงปุ๋ยครั้งละประมาณ 4 – 5 ถุง เพื่อไม่ให้เจ้าของรู้ตัว ก็แอบเข้าไปเอาเรื่อยๆ จนเกลี้ยงยุ้ง
กระทั่งช่วงเช้าวานนี้ (19 ส.ค.65) นางประพง ผู้เสียหายได้เดินไปเก็บผักแล้วไม่รู้อะไรดลใจ จึงใช้ไม้ลองเคาะยุ้งดูก็ได้ยินเสียงเหมือนโล่งๆ ทั้งที่เก็บข้าวเปลือกไว้เต็มยุ้งน่าจะเป็นเสียงแน่นๆ จึงไปเปิดยุ้งดูก็แทบช็อกร้องตะโกนเสียงดังลั่นข้าวหาย จึงได้ไปแจ้งความที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ หลังกลับจากแจ้งความก็ได้มาจุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าตามความเชื่อ เพื่อขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้ตำรวจตามตัวคนร้ายได้โดยเร็ว
หลังได้รับแจ้ง พ.ต.อ.มานิตย์ สร้อยจิต ผู้กำกับการ สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนนำกำลังออกสืบสวนแกะรอยเพื่อติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ ช่วงบ่ายก็ทราบเบาะแสว่ามีหญิงชาวบ้านคนหนึ่งซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับผู้เสียหาย ได้นำข้าวเปลือกไปขายให้กับโรงสีแห่งหนึ่งในพื้นที่หลายครั้ง จากนั้นจึงได้นำตัวหญิงคนดังกล่าวชื่อ นางนิตย์ อายุ 45 ปี ไปสอบจนยอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุลักขโมยข้าวเปลือกของผู้เสียหายจริง โดยผู้ต้องหาอ้างว่าได้นำข้าวเปลือกที่ขโมยไปได้ ใส่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปขายที่โรงสี เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัวและให้ลูกหลานไปโรงเรียน
โดยนางประพง ผู้เสียหาย บอกว่า ข้าวเปลือกที่ถูกขโมยไปเป็นข้าวหอมมะลิ ปริมาณกว่า 2 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4 หมื่นกว่าบาท เป็นข้าวที่เก็บไว้บริโภคในครัวเรือนและขายในยามจำเป็น ที่ไม่รู้ว่าคนร้ายแอบมาขโมยเพราะทยอยมาเอาทีละไม่มาก ประกอบกับตัวเองก็ไม่ค่อยได้มาเปิดดูบ่อย กระทั่งมาเก็บผักข้างยุ้งจึงลองมาเคาะดูถึงได้รู้ว่าข้าวหายหมดยุ้งแล้ว ก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถติดตามตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็คงไม่ได้ข้าวคืนเพราะคนก่อเหตุเอาไปขายหมดแล้ว
หลังทำแผนพนักงานสอบสวนก็ได้แจ้งข้อหา “ลักทรัพย์(ข้าวเปลือก) ที่เป็นของผู้มีอาชีพกสิกรรมหรือรับของโจร)
