ข่าวอัพเดทรายวัน

สลด อส.หนุ่มน้อยใจเมียไปทำงานไกลเพื่อหาเงินจ่ายค่างวดรถยนต์ที่เพิ่งถอยมาได้ 5 เดือน

สลด อส.หนุ่มน้อยใจเมียไปทำงานไกลเพื่อหาเงินจ่ายค่างวดรถยนต์ที่เพิ่งถอยมาได้ 5 เดือน ทำให้ไม่มีเวลาได้อยู่ด้วยกัน ซดเหล้าย้อมใจก่อนใช้ปืนยิงขมับตัวเองดับคาบ้าน ญาติเผยเคยพยายามผูกคอตายหลายครั้งแต่ญาติช่วยไว้ทัน

เมื่อวันที่ 22 ส.ค.65 พ.ต.ท.ไชยา สระโสม รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุยิงตัวตายภายในบ้านหลังหนึ่ง ในตำบลพระครู อ.เมืองบุรีรัมย์ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะประสานแพทย์เวร รพ.บุรีรัมย์ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากยืนมุงดูรอบบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เมื่อเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านพบร่างนายสมยศ อุดมศรี อายุ 33 ปี ซึ่งปัจจุบันเป็นอาสาสมัครรักษาดินแดน(อส.) ปฏิบัติหน้าที่อยู่ประจำที่ว่าการ อ.ลำปลายมาศ นอนตะแคงเสียชีวิตอยู่ข้างเตียงนอนภายในบ้าน ในสภาพสวมกางเกงขาสั้นตัวเดียวไม่สวมเสื้อ ตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นพบบริเวณขยับข้างขวามีรอยกระสุนปืนยิงทะลุศรีษะด้านซ้าย 1 นัด คราบเลือดไหลนองพื้น พบปืนขนาด 9 มม. ซึ่งเป็นปืนที่ซื้อในโครงการสวัสดิการ ตกอยู่บริเวณเท้าของผู้ตาย และซองใส่ปืนวางอยู่ข้างศพ ทั้งพบขวดเหล้าขาวตั้งอยู่ 1 ขวดถูกเปิดดื่มไปแล้ว พร้อมจานใส่มะม่วงคาดว่าใช้กินแกล้มเหล้า มีดปลายแหลม 1 เล่มใช้สำหรับปาดมะม่วงวางอยู่ข้างจานด้วย นอกจากนั้นยังพบรอยกระสุนปืนทะลุประตูและหลังคาบ้านด้วย แต่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย จึงสันนิษฐานว่านายสมยศ น่าจะคิดสั้นใช้ปืนยิงตัวตายเอง ส่วนสาเหตุก็น่าจะน้อยใจภรรยาที่ไปทำงานกรุงเทพฯ ทำให้ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน

จากการสอบถามนายอุเทน พรมรี อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นคู่เขยกับผู้ตาย และเป็นคนพบศพคนแรก เล่าว่า เมื่อวานช่วงเย็นเห็นนายสมยศ นั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียวที่แคร่หน้าบ้านจนถึงช่วง 2 ทุ่ม ก็เห็นเข้าบ้านไปก็นึกว่าเข้าไปนอนตามปกติ กระทั่งช่วงเช้าภรรยาผู้ตาย โทรมาหาน้องสาวตัวเองว่าติดต่อสามีไม่ได้โทรไปก็ไม่รับสาย จึงวานให้ช่วยไปดูที่บ้านให้หน่อย แต่พอตนไปเคาะประตูเรียกก็ไม่มีเสียงตอบกลับ จึงตัดสินใจงัดหน้าต่างส่องดูก็เห็นนอนตะแคงข้างเตียง ตอนแรกคิดว่าเมาแล้วนอนหลับแต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น จึงปีนเข้าไปดูก็ต้องแทบช็อก เพราะนายสมยศ นอนแน่นิ่งมีเลือดไหลเต็มพื้น ข้างตัวก็พบทั้งมีดและปืนวางอยู่ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้วจึงได้บอกญาติและแจ้ง ผญบ. เพื่อประสาน จนท.มาตรวจสอบ ส่วนสาเหตุก็คิดว่าเป็นเรื่องในครอบครัว เพราะเห็นทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อย และที่ผ่านมาเวลาที่นายสมยศ น้อยใจก็เคยพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง

ด้าน น.ส.นภาพร มีโคตรกอง อายุ 28 ปี น้องเมียผู้ตาย เล่าว่า ทั้งสองอยู่กินด้วยกันมาหลายปีแล้วมีลูกสาวอายุ 4 ขวบ ก่อนหน้านี้พี่สาวก็ทำงานอยู่ในจ.บุรีรัมย์ ส่วนพี่เขยเป็น อส. หลังจากพี่สาวซื้อรถเก๋งผ่อนมาได้ประมาณ 5 เดือน รายได้จากการทำงานก็ไม่เพียงพอจ่ายค่างวด จึงคุยกับพี่เขยว่าจะไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อหาเงินมาจ่ายค่างวดรถ ก็เพิ่งจะเดินทางไปล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ส.ค.65 ที่ผ่านมา ส่วนพี่เขยและหลานสาวก็อยู่บ้าน แต่พี่สาวก็จะโทรมาหาพี่เขยและหลานประจำ ล่าสุดก็เพิ่งโทรมาตอน 5 โมงเย็นวานนี้ แต่ไม่รู้ว่าทั้งคู่คุยอะไรกันจากนั้นก็เห็นพี่เขยนั่งดื่มเหล้าคนเดียว ส่วนหลานพอเห็นพ่อเมาจึงไปอยู่กับยายและตนเอง แต่หลังจากนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น กระทั่งตอนเช้าพี่สาวโทรศัพท์มาบอกให้ไปดูที่บ้านให้หน่อยเพราะติดต่อพี่เขยไม่ได้ ตนจึงให้แฟนไปดูกระทั่งพบว่าพี่เขยใช้ปืนยิงตัวเองเสียชีวิตแล้ว ส่วนสาเหตุก็น่าจะน้อยใจที่พี่สาวไปทำงานไกลเพื่อหาเงินมาจ่ายค่างวดรถ จนทำให้ไม่มีเวลาได้อยู่ด้วยกัน จึงได้คิดสั้นเพราะก่อนหน้านี้พี่เขย ก็พยายามจะฆ่าตัวตายด้วยผูกคอตายแล้วหลายครั้ง แต่ตนและญาติก็มาช่วยไว้ได้ทัน แต่ครั้งนี้ไม่สามารถช่วยได้เพราะใช้ปืนยิงตัวเอง

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ก็จะได้ส่งศพผู้เสียชีวิตไปผ่าชันสูตรที่ รพ.ตามขั้นตอน ก่อนมอบร่างให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่บ้านต่อไป