ข่าวอัพเดทรายวัน

นครพนม ตลาดคึกคักชาวบ้าน แห่ซื้อของ ทำบุญเดือน 9 ห่อข้าวประดับดิน

วันที่ 25 สิงหาคม 65 ที่ตลาดสดเทศบาลตำบลศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ชาวบ้านต่างพากันออกมาซื้อของเพื่อเตรียมไปทำบุญเดือนเก้าห่อข้าวประดับดิน ฮีตสิบสองคองสิบสี่ มูลมังอีสาน ที่จัดขึ้นเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ผีไร้ญาติและสัตว์นรก หรือเปรต ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 26 สิงหาคม 2565 โดยบรรยากาศ ตลาดเทศบาลตำบลศรีสงครามอำเภอศรีสงครามจังหวัดนครพนมดูคึกคักเป็นพิเศษตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ประชาชนต่างเลือกซื้อ ข้าวของ อาหารคาวหวาน หมากพลู บุหรี่ ผลไม้ต่าง ๆ แล้วก็ยังมี ของไหว้ชุดสำเร็จรูปไว้ให้ประชาชนได้เลือกซื้อ ในราคาแพ็คละ 20 – 30 บาท ใน 1 ชุด จะมีผลไม้ 9 อย่าง หมากพลู เพื่อเป็นการลดรายจ่ายให้กับประชาชน

นางดารา คันทักษ์ แม่ค้าขายชุดทำบุญแบบสำเร็จรูปกล่าวว่า ปกติตนขายอาหารแกงถุง และของหวาน ทุกปีพอถึงช่วงทำบุญเดือน 9 ห่อข้าวประดับดิน จะหยุดทำของขายมาจัดชุดสำเร็จรูปแพ็คขายให้กับประชาชนเพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวบ้านและขายราคาไม่แพง ซื้อง่ายขายคล่อง ชุดละ 20-30 บาท โดยจะซื้อของมาจัดชุดในรูปแบบเหมามา แล้วนำมาแพ็คปีที่แล้วขายดีทำไม่ทัน ปีนี้ของแพงแต่ก็ยังคงราคาเดิม ซึ่งตนหาผลไม้พื้นบ้านมาจัดชุดเพื่อลดต้นทุนอีกทาง หนึ่งด้วย

ประเพณีบุญข้าวประดับดิน หรือบุญเดือนเก้า เป็นอีกหนึ่งประเพณีที่สืบทอดกันมานานในภาคอีสาน โดยเป็นงานประเพณีที่ถูกจัดขึ้นในวันแรม 14 ค่ำ เดือนเก้า ของทุก ๆ ปี ทั้งนี้ในการทำบุญข้าวประดับดินนั้น ชาวบ้านจะนำข้าวปลา อาหาร คาวหวาน ผลไม้ หมาก พลู บุหรี่ มาห่อด้วยใบตอง และทำเป็นห่อเล็ก ๆ ก่อนจะนำไปวางตามโคนต้นไม้ใหญ่หรือตามพื้นดินบริเวณรอบ ๆ เจดีย์ หรือโบสถ์ และตามทางแยกต่างๆโดยการทำบุญข้าวประดับดินนี้ ชาวบ้านเชื่อว่า เป็นการทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว รวมถึงอุทิศส่วนกุศลให้กับสัตว์นรก หรือเปรต ในอบายภูมิ
นอกจากนี้ บุญข้าวประดับดิน ยังถือว่าเป็นการให้ทานแก่ผู้ยากไร้รวมทั้งสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของ ที่ต้องหิว อดมื้อกินมื้อมาตลอดทั้งปีอีกด้วย เพราะการที่ตั้งอาหารไว้ที่พื้นตามจุดต่างๆ ทำให้สัตว์เหล่านั้นสามารถเข้ามากินอาหารได้อย่างเต็มที่ การทำบุญข้าวประดับดินนี้ เกิดจากความเชื่อตามนิทานธรรมบทว่า ญาติของพระเจ้าพิมพิสาร ได้ยักยอกเงินวัดไปเป็นของตนเอง ครั้นตายไปแล้วได้ไปเกิดเป็นเปรตในนรก และเมื่อพระเจ้าพิมพิสารถวายทานแด่พระพุทธเจ้าแล้วมิได้อุทิศให้ญาติที่ตาย กลางคืนพวกญาติที่ตายมาแสดงตัวเปล่งเสียงน่ากลัวให้ปรากฏใกล้พระราชนิเวศน์ รุ่งเช้าได้เสด็จไปทูลถามพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทูลเหตุผลให้ทราบ พระเจ้าพิมพิสารจึงถวายทานอีก แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้ ญาติที่ตายไปจึงได้รับส่วนกุศล ดังนั้น การทำบุญข้าวประดับดิน คือการทำเพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ญาติผู้ตายแล้ว ถือเป็นประเพณีที่ต้องทำเป็นประจำทุกปี