ข่าวอัพเดทรายวัน

สุรินทร์ ชาวบ้านสุดทน โวยถนนเละเป็นทะเลโคลนกว่า 500 เมตร แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าแก้ไข

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้าน หมู่ที่1 ต. สลักได อ เมือง จ.สุรินทร์ ได้ร้องเรียนประสบปัญหาเดือดร้อนหนักเพราะต้องทนทุกข์มานาน ที่ถนนทางเข้าบ้านเกิดปัญหาชำรุดเป็นทะเลโคลนหลุมเป็นบ่อ ระยะทางประมาณกว่า 500 เมตร ลำบากต่อการใช้สัญจร แถมมาเจอฝนตกซ้ำจนทำให้ถนนกลายเป็นทะเลโคลน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ในการสัญจรเข้าออกจากบ้านลำบาก พร้อมกันนี้เด็กนักเรียนยังต้องขาดเรียนในบางวันที่ถนนเป็นโคลนหนักจนไม่สามารถใช้เดินทางได้ ซึ่งเคยร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมานานและหลายครั้งแต่ยังเป็นเหมือนเดิม ไม่มีความคืบหน้า โดยอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขหรือให้นำหินคลุกมาลงให้ในเบื้องต้นก่อน

วันนี้ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ดังกล่าวพบชาวบ้านรออยู่บริเวณถนนที่เละเป็นทะเลโคลนปากทางเข้าหมู่บ้าน พร้อมกับชี้ให้ดูถนนที่เละเป็นโคลนและเป็นหลุมลึกประมาณ 20 ซ.ม. มีร่องรอยล้อของรถที่เคยติด โดย น.ส. ชนัญชิดา คงปราโมทย์ 37 ปี 689 หมู่ที่1 ต. สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ กำลังปลูกกล้วยอยู่กลางถนนที่เละเป็นทะเลโคลน ซึ่งเป็นถนนดิน ความกว้างประมาณ 7 เมตร ความยาวของถนนประมาณ 500 เมตร ชาวบ้านสัญจร หมู่บ้านนี้เป็นเขตพื้นที่ตำบลสลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ บางวันฝนตกจนรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ต้องเดินลุยโคลน ถ้าเป็นหน้าแล้งก็จะมีแต่ฝุ่นคลุมไปทั่ว ต้องทนลำบากมานานนับปี ถนนที่เละเป็นโคลนแบบนี้แล้ว วิงวอนผ่านสื่อถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ลงมาแก้ไขช่วยเหลือชาวบ้านให้พ้นทุกข์จากความลำบากด้วย

น.ส. ชนัญชิดา คงปราโมทย์ อายุ 37 ปี 689 หมู่ที่1 ต. สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์กล่าวว่า ถนนเส้นดังกล่าวยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแลเลย เป็นแบบนี้มานานแล้ว ได้ร้องเรียนไปก็หลายครั้ง ถนนเละเป็นทะเลโคลนแบบนี้มานานแล้ว แล้วเป็นถนนที่ใช้สัญจรไปมาเข้าออกหมู่บ้าน เข้าในตัวจังหวัดก็ทางนี้ ซึ่งเป็นเขตของ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ห่างจากเมืองสุรินทร์เข้าไปในหมู่บ้านประมาณ 5-6 กิโลเมตร

น.ส. ชนัญชิดา คงปราโมทย์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ถนนเส้นที่เละมาก สัญจรเข้าออกก็ลำบาก ส่งลูกส่งหลานไปโรงเรียนก็ยาก บางครั้งก็รถจักรยานยนต์ล้มจนเลอะเทอะ อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในเขตนี้ช่วยเข้ามารับผิดชอบ เข้ามาดูแลหน่อย เพราะชาวบ้านสัญจรลำบากมาก ถ้าถนนเละมากก็จะจอดรถไว้ที่ถนนข้างนอกปากทางเข้า และเดินทางเท้าเข้าไปในหมู่บ้านประมาณ 500 เมตร จึงขอวิงวอนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาแก้ไขด้วย