ข่าวอัพเดทรายวัน

สุรินทร์ ชายแปลกหน้า 4 คนบุกเข้าบ้าน 2 ครั้งเจ้าของบ้านหวั่นเป็นมิจฉาชีพ

วันนี้ที่ 3 กันยายน 2565 เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าว ได้รับการเปิดเผยจาก นายสังขะ ศรีบุญ (สามี) อายุ 62 ปี และนางสำเภา ศรีบุญ (ภรรยา)อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 68 หมู่ 10 บ้านหนองกุง ต.กระเทียม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน เล่าว่าเมื่อวานนี้มีชายแต่งกายและตัดผมสั้นเกรียนร่างกายผอมสูง พกพาวิทยุสื่อสารลักษณะคล้ายตำรวจนอกเครื่องแบบ ขับรถยนต์เข้ามาจอดใกล้บริเวณบ้าน แล้วอยู่ๆก็เดินเข้ามาในบ้านของชาวบ้าน ในลักษณะท่าทางรีบร้อน และสำรวจเดินมองไปทั่วบริเวณบ้านของตน พอเดินเข้ามาพบเห็นแค่ ตนและสามีคนแก่ 2คน นั่งบดหญ้าเนเปียร์เลี้ยงวัวอยู่ในลานบ้านหลังดังกล่าว ชายทั้ง 4 คน เมื่อเห็นคนตนและสามี จึงทำทีถามว่า บ้านของผู้ใหญ่บ้านอยู่ตรงไหน และขอซื้อหญ้าเนเปียร์บดไป 3 กระสอบ แต่มีชายอีกคนหนึ่งยื่นอยู่หน้าห้องลูกสาว ยืนส่องดูว่าด้านในมีอะไร พอเห็นว่าบ้านหลังนี้มีกล้องวงจรปิดติดอยู่ 2 ตัว จึงได้บอกเพื่อนๆ และรีบเดินออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งขับรถกะบะ 4 ประตูสีขาว ทะเบียน 1 กว 37 กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามาเอาหญ้าเนเปียร์ที่ซื้อไว้ แล้วรีบขับออกไปทันที

นางสำเภา ศรีบุญ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังอีกว่า การเข้ามาของชายทั้ง4 คนที่คล้ายตำรวจ เข้ามาในบ้านครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2แล้ว ที่เกิดเหตุลักษณะแบบนี้ หนแรกมาก็ทำทีมาขอสั่งซื้อหญ้าเนเปียร์ 10 กระสอบ และไม่มารับไป หญ้าที่ตัดใส่กระสอบรอไว้ก็เหี่ยวเน่าเสีย และอยากจะบอกไว้เลยว่า เจ้าของบ้านหลังนี้มีอาชีพเลี้ยงวัว และปลูกหญ้าเนเปียร์ขาย และขายของออนไลน์ มีลูกผู้หญิง 3 คนมีครอบครัวแล้ว อาชีพรับราชการ ลูกเขย 2 คน ก็รับราชการ ลูกเขยอีก 1 คนทำงานบริษัทเอกชน ทุกคนทำงานสุจริต ไม่เคยข้องเกี่ยวสิ่งที่ผิดกฏหมาย มีรถจักรยานยนต์ 3 คัน และรถยนต์ 5 คัน รถยนต์ที่ลูกๆใช้ขับไปทำงานทุกวัน

หากทางตำรวจเกิดข้อสงสัยและมีความประสงค์จะขอตรวจค้นบ้าน เจ้าของบ้านก็ยินยอมให้ตรวจค้น ขอแค่เพียงให้บอกกล่าวและแสดงตัวว่ามาจากไหนต้องการอะไรตนก็พร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง อย่ากระทำการเช่นนี้เลย ส่งผลให้ครอบครัวลูกหลานเกิดความไม่สบายใจ หวั่นมีมิจฉาชีพมาทำอันตรายกับพ่อแม่ที่อยู่ที่บ้าน และสิ่งที่กลุ่มบุคคลเหล่านี้ทำ ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านเกิดความเข้าใจผิดและนินทากันไปต่างต่างนานาว่า บ้านหลังนี้ทำอะไรผิดถึงมีตำรวจเข้ามาบ้านบ่อยๆ ทำให้เสียชื่อเสียงต่อครอบครัว ถ้าหากบุคคลกลุ่มนี้เป็นตำรวจจริงมีเหตุอันใดถึงกระทำการเช่นนี้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว และน่าจะตรวจสอบไม่ยากเพราะรถแบบนี้ ชาวบ้านว่าคล้ายรถตำรวจ และทะเบียนรถก็ติดอยู่สามารถตรวจสอบได้เช่นกัน แต่ถ้าหากไม่ใช่ตำรวจ ชาวบ้านจะทำอย่างไรถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้หวั่นเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน นางสำเภา บุญศรี วอนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจสอบเพื่อความกระจ่างให้ชัดเจนด้วย