ข่าวอัพเดทรายวัน

ขอนแก่น เขื่อนอุบลรัตน์ ยังรองรับน้ำได้อีก 1,135.55 ล้าน ลบ.ม. ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 14 แห่ง น้ำเพิ่มขึ้นจากปีก่อนปริมาณ คิดเป็น 109.29% ของความจุรวม

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 7 ก.ย.65 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในภาพรวมจังหวัดขอนแก่น ในปัจจุบัน ว่า ปัจจุบันมีปริมาณน้ำค่อนข้างสูงมาก จากการติดตามสถานการณ์และการควบคุมปริมาณน้ำมาโดยตลอด พบว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ คือ เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น มีปริมาณน้ำในอ่าง 1,296.05 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 53.31% สามารถรองรับน้ำได้อีก 1,135.55 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำในอ่างฯ เมื่อเทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 587.01 ล้าน ลบ.ม. โดยมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดขอนแก่น เพื่อควบคุมปริมาณน้ำเก็บกักในอ่างให้เป็นไปตามเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำจัดเก็บสูงสุดและรองรับปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเป็นปริมาณมากในเดือนกันยายน-ตุลาคม คณะอนุกรรมการเห็นชอบให้ กฟผ. คงการระบายน้ำในอัตรา สูงสุดไม่เกิน 25 ล้าน ลบ.ม./วัน ไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมติที่ประชุม โดยมีแผนการระบายน้ำ ระหว่างวันที่ 5 – 9 กันยายน 2565 มีการระบายน้ำอยู่ที่วันละ 24 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อเตรียมรองรับน้ำที่จะไหลเข้ามาใหม่จากพื้นที่ต่าง ๆ และจากน้ำฝนที่จะตกลงมาในช่วงนี้ เพื่อให้เกิดความมั่นคงและปลอดภัยของตัวเขื่อน และการวางแผนระบายน้ำ

“จากการที่ได้มีการตรวจสอบเส้นทางลำน้ำ ซึ่งจังหวัดขอนแก่น เปรียบเสมือนต้นทางของลำน้ำชี โดยเขื่อนอุบลรัตน์ รับน้ำมาแล้วปล่อยลงสู่ลำน้ำพอง ลำน้ำชี และไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 3 เซนติเมตร อยู่ในสภาวะเสี่ยง ซึ่งขณะนี้ได้มีการปรับแผนการระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน”

สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 14 แห่งในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ความจุรวม 105.877 ล้าน ลบ.ม.ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่าง 115.718 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 109.29% ของความจุรวม เพิ่มจากปีที่ผ่านมาซึ่งมี ปริมาณน้ำในอ่างเพียง 44.9% ซึ่งเพิ่มจากเดิมเป็นปริมาณมาก

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวอีกว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำในลำน้ำชีที่ไหลมาจากจังหวัดชัยภูมิโดยมีสถานี E23 ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองจังหวัดชัยภูมิ ขณะนี้ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากน้ำในลำน้ำชีที่อำเภอเมือง ชัยภูมิ ที่สถานี E23 มีน้ำต่ำกว่าตลิ่งอยู่ที่ประมาณ 1.05 เมตร เมื่อไหลผ่านเข้ามาในเขตจังหวัดขอนแก่น ที่อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น น้ำต่ำกว่าตลิ่งที่ระดับ 45 เซนติเมตร เมื่อน้ำไหลมาที่สถานี E 22 ที่ลำน้ำพอง น้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.75 เมตร ซึ่งจะต้องมีการบริหารจัดการจราจรน้ำควบคู่กับการบริหารจัดการให้น้ำไม่ให้เกิดผลกระทบในพื้นที่หนึ่งพื้นที่ใด เนื่องจากประชาชนตลอดแนวลำน้ำในหลายจังหวัด ทั้งขอนแก่นมหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร ไปจนถึงอุบลราชธานี จะได้รับผลกระทบ จึงต้องมีการประสานงานกัน ระหว่างสำนักงานชลประทานที่รับผิดชอบทั้งหมดรวมถึงจังหวัดต่างๆ และหากมีฝนตกหนักต่อเนื่องจากอิทธิพลของพายุลูกใหม่ที่กำลังจะเข้ามา จะต้องมีการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำโดยทันที เพื่อปรับการระบายน้ำหรือลดการระบายน้ำโดยต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์เป็นหลัก
“ขอความร่วมมือประชาชนได้มีการเตรียมตัวและติดตามสถานการณ์ ข่าวสารของทางราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถเตรียมการได้อย่างทันท่วงที พร้อมยืนยันว่า ณ ขณะนี้ได้มีการเตรียมพร้อมอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร และเตรียมความพร้อมของทุกหน่วย ทั้งหน่วยทหารในพื้นที่ ตำรวจและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เฝ้าระวังการจราจรทางถนนและพื้นที่ที่ทางจังหวัดได้มอบหมายในกรณีที่มีรถยนต์ยานพาหนะของประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมขังผิวจราจร ที่มีปัญหารถดับรถเสียจากน้ำท่วมขังหรือมีความจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายรถยนต์ โดยขอให้ทุกหน่วยได้ช่วยกันอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน รวมถึง การประเมินสถานการณ์ในจุดอุโมงค์ทางลอด ทางแยก ทางรถไฟในจุดต่างๆ ขณะนี้ทุกจุดได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น พร้อมฝากประชาชนช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตาในการแจ้งเหตุจุดเสี่ยงจุดอันตราย หากมีข้อบกพร่องเกิดขึ้นได้มีการแจ้งเตือนมายังหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อดำเนินการแก้ไขโดยทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่พร้อมที่จะเข้าดำเนินการในทุกจุด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน”