วันที่ 7 กันยายน 2565 เมื่อเวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวพบชาวบ้านกว่า 20 คน รวมตัวกันถือป้ายขอให้ปิดปราสาทเพชรเป็นการชั่วคราว เนื่องจากมีกลุ่มบุคคลมาใช้อำนาจครอบครอง แสวงผลประโยชน์ พร้อมทั้งตะโกนให้เปลี่ยนคณะกรรมการวัดใหม่และคัดค้านการทำถนนวางท่อเข้าจอดรถ ซึ่งเป็นทางเข้าพิพิธภัณฑ์ปราสาทเพชรนั้น จะมีป้ายติดไว้ว่าให้รถยนต์เข้ามาจอดหน้าปราสาทได้จึงทำให้ถนนเข้าไปชำรุดแตกร้าวเป็นทางยาวกว่า 10เมตร พร้อมกันนี้ยังจะทำถนนและวางท่อระบายน้ำข้างสะพาน ซึ่งเป็นที่ไม่พอใจกับชาวบ้านชาวชุมชนเป็นอย่างมาก ชาวบ้านจึงรวมตัวกันถือป้ายมีข้อความว่า ”ประชาชน ชาวบ้านตำบลทุ่งมน-สมุด ลูกหลานและศิษย์ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ขอให้ปิดปราสาทเพชรเป็นการชั่วคราว เนื่องจากมีกลุ่มบุคคลมาใช้อำนาจครอบครอง แสวงผลประโยชน์ แสดงความเป็นเจ้าของ ทำให้เกิดความเสื่อมเสียถึง หลวงปู่หงษ์ อันเป็นที่เคารพบูชาของพวกเรา ทำให้สังคมเกิด ความแตกแยก จนกว่าจะมีคณะบริหารชุดที่แต่งตั้ง ตามระเบียบเข้ามาบริหารจัดการ”
“พิพิธภัณฑ์ปราสาทเพชร เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ของ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ หลวงปู่ท่านมีความตั้งใจ ให้เปิดคลอง เพื่อให้น้ำไหลวนรอบปราสาทเพชร ลูกหลาน ลูกศิษย์ ประชาชนตำบลทุ่งมน-สมุด จึงไม่ประสงค์ให้เอาท่อมาวาง XXXX ไม่เอาท่อ XXXX”
ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวพบนางรัตนา เกษมบุญ (หลานสาวหลวงปู่หงษ์) ตัวแทนชาวบ้านพร้อมกับชาวชุมชนทุ่งมน กว่า 20 คนที่รวมตัวกันที่หน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์ปราสาทเพชร ที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ของ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ พร้อมกับตะโกนโห่และขับไล่คณะกรรมการวัดทั้งหมดพร้อมทั้งขอให้ปิดพิพิธภัณฑ์ปราสาทเพชร เพื่อให้แต่งตั้งคณะกรรมการวัดใหม่ เพราะว่าการบริหารนั้นทำตามอำเภอใจไม่ผ่านมติของคณะกรรมการที่มีทั้งหมด 90 คน พร้อมกันนี้ที่พิพิธภัณฑ์ปราสาทเพชร ยังทำระบบให้ที่มีลูกศิษย์ลูกหามากราบไหว้ ต้องบริจาคแม้กระทั้งน้ำมนต์ยังต้องติดป้ายไว้ว่าขวดละ 20 บาท จึงขอวอนหน่วยงานหรือสำนักพุทธศาสนาให้เข้ามาตรวจสอบด้วย
ชาวบ้านทุ่งมน กล่าวว่า การที่จะมาทำถนนด้านข้างและนำท่อระบายน้ำมานั้น ตนนั้นรู้สึกว่าไม่พอใจเป็นอย่างมา เพราะว่าหลวงปู่สั่งไว้ว่าท่านมีความตั้งใจ ให้เปิดคลอง เพื่อให้น้ำไหลวนรอบปราสาทเพชร แต่คณะกรรมการชุดนี้จะทำให้รถเข้าไปจอดในบริเวณพิพิธภัณฑ์ปราสาทเพชร ที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ของ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ คณะกรรมการชุดนี้มาบริหารเพื่อหวังผลประโยชน์หรือไม่ ชาวบ้านจึงรวมตัวกันถือป้ายขอให้ปิดพิพิธภัณฑ์ปราสาทเพชร เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ของ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ไว้ก่อน เพื่อให้หาคณะกรรมการชุดใหม่มาแทน ซึ่งหากไม่มีอะไรคืบหน้าทางชาวชุมชนก็จะไปพบนายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และสำนักพุทธจังหวัดสุรินทร์ ให้เข้าตรวจสอบต่อไป