ข่าวอัพเดทรายวัน

ชีวิตรันทด ยายวัย 85 เลี้ยงเหลนสามคนตามยถากรรม หลังถูกพ่อแม่ทอดทิ้งไม่เหลียวแลวอนผู้มีจิตเมตตาช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 10 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางจันทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 85 ปี อยู่ที่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 7 บ้านเหล่าภูมี ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม กำลังสาละวนอยู่กับการก่อไฟนึ่งข้าวเพื่อให้เหลนชายตัวเล็กสามคนได้กินมื้อเที่ยง โดยทั้งสี่คนอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ด้วยกัน หลังจากที่พ่อแม่ของเด็กทั้งสามได้แยกทางกัน และทิ้งลูชายไว้ให้ยายทวดเลี้ยงถึงสามคน

โดยนางจันทร์ เปิดเผยว่า ตนแต่งงานมีสามีและมีลูกด้วยกัน 5 คน เป็นชาย 2 คนและหญิง 3 คน ต่อมาสามีป่วยเสียชีวิตเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วก็อาศัยอยู่กับลูกชายที่พิการไม่สมประกอบเรื่อยมา ส่วนลูกคนอื่นๆ ก็แต่งงานแยกย้ายกันไปทำมาหากินต่างจังหวัด ต่อมาลูกชายคนรองก็พาลูกสาวของตัวเองมาฝากให้อยู่ด้วยที่บ้านต่อมาหลานสาวก็มีสามีและมีลูกด้วยกัน สามคนเป็นผู้ชายทั้งหมด โดยคนโตอายุ 5 ปี คนรองอายุ 3 ปี ส่วนคนเล็กเพิ่งมีอายได้ 1 ปีกับสามเดือน อยู่ ๆ ทั้งคู่ก็ทะเลาะกันแล้วหย่าร้างกันแล้วต่างคนต่างแยกย้ายหนีกันไปหากินต่างจังหวัดทิ้งลูกทั้งสามไว้ให้ตนเลี้ยง ซึ่งตนก็หาข้าวปลาอาหารเลี้ยงไปตามอัตภาพ โดยอาศัยเบี้ยยังชีพของคนชราเดือนละ 800 บาทของตนบวกกับเงินช่วยเหลือคนพิการของลูกชายอีก 800 บาทต่อเดือนก็พอถูไถไปได้ ต่อมา ลูกชายก็มาเสียชีวิตลงอีกเมื่อเร็วๆนี้ทำให้เหลือเพียงเงิน 800 บาทที่เป็นเบี้ยยังชีพของตนเท่านั้น ที่จะใช้ยังชีพตนและเหลนอีกสามคน ก็ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ปัจจุบันชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างก็เอาสิ่งของเครื่องใช้ที่ไม่ได้ใช้แล้วรวมถึงเสื้อผ้าเด็ก ๆ มาให้ ส่วนเรื่องกับข้าวกับปลาก็ไปหาซื้อกับร้านค้าไกล้บ้านวันไหนไม่มีเงินก็ติดหนี้ไว้ก่อน รอจนเงินคนชราออกค่อยเอามาจ่าย บางวันพระที่วัดไกล้บ้านออกบิณฑบาต ผ่านหน้าบ้านก็แวะเอากับข้าวกับปลาตลอดจนถึงของที่ชาวบ้านใส่บาตร แบ่งมาให้ตนและเด็ก ๆก็พอประทังชีวิตไปได้ ทุกวันนี้ก็ได้แต่ภาวนาให้ลูกๆ หลาน ๆ ที่อยู่ต่างจังหวัดให้กลับมาช่วยเลี้ยงเด็กๆ ทั้งสามด้วยเพราะเด็กไม่ได้มีความผิดอะไรและน่าสงสารมาก ส่วนตนก็เหมือนไม้ไกล้ฝั่งไม่รู้จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน

ด้านนางนิตยา (สงวนนามสกุล) ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านเหล่าภูมี เปิดเผยว่า ชีวิตของยายจันทร์ ลำบากมาตลอดก่อนหน้านี้ก็ต้องเลี้ยงดูลูกชายที่พิการมาแต่เกิดและเพิ่งเสียชีวิตไป ต่อมาต้องรับภาระเลี้ยงเหลนอีกสามคน ทั้ง ๆที่ฐานะทางบ้านก็ไม่ดีอาศัยแต่เบี้ยยังชีพคนชราเดือนละ 800 บาทมาเลี้ยงสี่ชีวิต เท่านั้นโดยชาวบ้านแถวนี้ต่างก็หยิบยื่นความช่วยเหลือให้แกบ้างบางคนก็แบ่งข้าวปลาอาหารมาให้ ตอนไหนทางการมีการแจกจ่ายข้าวสารอาหารแห้งตนก็จะแบ่งมาให้ยายจันทร์ ทุกครั้ง

ส่วนนางจีระภา (สงวนนามสกุล) ข้าราชการครูบำนาญ เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับครอบครัวยายจันทร์ มากว่า 30 ปี ชีวิตของยายจันทร์ ลำบากมาตลอด ตอนแรกลูกชายก็เอาลูกสาวของตัวเองมาให้เลี้ยงแกก็เลี้ยงตั้งแต่เล็กจนกระทั่งเรียนถึงชั้น ม. 2 หลานสาวก็คบหากับเด็กผู้ชายจนถึงขั้นมีลูกด้วยกันสองคน หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เลิกร้างกันไปส่วนลูกสองคนพ่อกับแม่สามีก็เอาไปเลี้ยงให้ หลังจากนั้น หลานสาวแกก็ได้สามีคนใหม่ซึ่งก็คือพ่อของเด็กทั้งสามคนนี้แหละ โดยทั้งคู่อยู่กินกันนานหลายปี หลังจากคลอดลูกคนที่สามแล้วทั้งคู่ก็หย่าร้างกันต่างคนต่างไปทำมาหากินที่ต่างจังหวัด ทิ้งลูกทั้งสามให้ย่าทวดเลี้ยงนาน ๆ ถึงจะกลับมาเยี่ยมทีหนึ่ง ในแต่ละวันชาวบ้านก็จะผลัดเปลี่ยนกันเอาข้าวปลาอาหารที่หาได้มาให้ยายจันทร์ กับเด็ก ๆ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะช่วยกันได้ถึงไหน ก็อยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเข้ามาดูแลอย่างเป็นทางการบ้างลำพังชาวบ้านช่วยกันก็ช่วยได้ตามมีตามเกิดเท่านั้น