ข่าวอัพเดทรายวัน

มุกดาหาร วิสาหกิจชุมชนเกษตรอารมณ์ดีร่วมกับกรมการแพทย์เก็บช่อดอกกัญชา

มุกดาหาร- วิสาหกิจชุมชนเกษตรอารมณ์ดี ร่วมกับกรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข เก็บช่อดอกกัญชา ตามโครงการปลูกกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์

เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 65 เวลา 09.30 น. ที่ฟาร์มเกษตรอารมณ์ดี เลขที่ 331 หมู่ 16 ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร นายแพทย์ เทวัญ ธานีรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นประธานในพิธีเก็บช่อดดอกกัญชา โดยมีนายเอกสิทธิ์ ศรีลาศักดิ์ ประธานที่ปรึกษาด้านการตลาดเพื่อสังคมวิสาหกิจชุมชนเกษตรอารมณ์ดี พร้อมด้วยตัวแทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร หน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมในพิธีในครั้งนี้

นาย เอกสิทธิ์ ศรีลาศักดิ์ ประธานที่ปรึกษาด้านการตลาดเพื่อสังคม วิสาหกิจชุมชนเกษตรอารมณ์ดี กล่าวว่า วัตถุประสงค์การจัดงานในครั้งนี้ การลงนามในข้อตกลงร่วมกัน ระหว่างวิสาหกิจชุมชนเกษตรอารมณ์ดี กับ กรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ในการจัดทำโครงการปลูกกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ ผลผลิตส่วนหนึ่ง วิสาหกิจเกษตรอารมณ์ดี จะบริจาคให้กับ กรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข นำไปสกัดเป็นยาส่งต่อให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาล ของกระทรวงสาธารณสุข โดยไม่คิดมูลค่านั้นเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการใช้ยา ที่สกัดจากกัญชาที่มีคุณภาพ ระดับ Medical Grade ซึ่งปัจจุบันยังมีความต้องการอีกเป็นอันมาก การที่วิสาหกิจชุมชนเกษตรอารมณ์ตี ได้ดำเนินการปลูก ด้วยเทคนิคการปลูกแบบกลางแจ้ง(OutDoor) ใช้วัสดุทุกอย่างในการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ ปลอดสารพิษปนเปื้อน 100 % นับเป็นความท้าทายในการเรียนรู้ เพื่อที่จะได้มีการปรับปรุง และถ่ายทอดบทเรียนการปลูกไปสู่วิสาหกิจชุมชนอื่น ๆ ต่อไป นอกเหนือจากผลผลิตที่ได้ บริจาคให้กับทางราชการ

ด้าน นายแพทย์ เทวัญ ธานีรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยว่า กัญชาเป็นนโยบายเสรีทางการแพทย์ของรัฐบาล ตอนนี้เป็นเสรีก็จริงแต่ว่าตัวกัญชา กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศเป็นสมุนไพรควบคุม ในวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีข้อห้ามไม่ให้คนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ใช้ประโยชน์จากกัญชา คือ เอาไปสูบ ยกเว้นการรักษาโรค หญิงมีครรภ์ และหญิงให้นมบุตร ไม่ให้ใช้และห้ามขาย ถ้าขายผิดกฎหมาย ทางกระทรวงสาธารณสุขห่วงเรื่องนี้ พ.ร.บ.กัญชาเสรีออกมา การปลูกต่าง ๆ กฎหมายไม่บังคับ แต่ต้องขอความร่วมมือการปลูกต้องจดแจ้ง โดยทางแอฟพลิเครชั่น “ ปลูกกัญ ” ของ อย. ก็สามารถจดแจ้งได้

นายแพทย์ เทวัญ ธานีรัตน์ เปิดเผยอีกว่า แต่ในกฎหมายใหม่ที่จะออกมา หลังจากที่ทางกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติ กัญชา กัญชง มีการพิจารณาแล้วเสร็จ รวมทั้งสิ้น 95 มาตรา เพราะกัญชาเองมีกฎหมายยาเสพติดโลกอยู่ ประเทศเราอยู่ในภาคีสมาชิกที่ถูกบังคับใช้ เรียกว่า อนุสัญญาเดี่ยว ว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ปี 1961 มีการแก้ไขปรับปรุง 1972 อีกฉบับหนึ่ง ตอนนี้กัญชาในประเทศไทยจะไม่ใช่ยาเสพติด หรือกัญชาไม่ถือเป็นยาเสพติดตามกกหมาย และในระดับโลกเขายังเป็นยาเสพติดอยู่ ระดับโลกเขาห่วงที่สุดคือ ช่อดอดกัญชา เพราะช่อดอกกัญชายังมีสารที่ทำให้เป็นสารมึนเมา อาจมีผลกับเด็กก็กังวลเรื่องนี้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ก็ออกมาห้ามเหมือนกัน ห้ามให้ช่อดอกกับเด็ก กับสตรีมีครรภ์ หญิงให้นมบุตร ยกเว้นการรักษาโรค ถ้าช่อดอกไปใช้กับเด็กผิดกฎมาย ถึงแม้กระทั่งคนที่ได้รับอนุญาตจำหน่ายแล้วเอาไปใช้ในกลุ่มนี้มีโทษ 2 เท่า โทษหนัก แต่ประชาชนทั้งประเทศสามารถปลูกกัญชาได้ แต่ต้องจดแจ้ง การปลูกได้ต้องปลูกในครัวเรือนบ้าน 1 หลัง หรือ 1 ทะเบียนบ้าน ปลูกได้แค่ 15 ต้น แต่ต้องจดแจ้งกับ อย. แต่ถ้าปลูกเกินผิดกฎหมายให้ปลูกเท่ากันจำนวนที่อนุญาต การใช้กัญชาในครัวเรือน ทางรัฐบาลทางกฎหมายจะไม่เข้าไปยุ่ง ยกเว้นกรณีเดียวคือ เอาให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์ และหญิงให้นมบุตร ปัจจุบันมีปัญหาคือ กลุ่มที่ใช้คือโทษอาญา ห้ามขายช่อดอก ถ้าขายช่อดอกต้องมาขออนุญาตกับสำนักงาน อย. การจะปลูกเพื่อทำการค้าแบ่งไซด์ของการปลูกเป็น 3 ระดับ 1. พื้นที่ ต่ำกว่า 5 ไร่ ค่าใช้จ่ายในการขออนุญาตไม่มี 2. เนื้อที่ 5-20 ไร่ มีค่าใช้จ่าย 3. เนื้อที่ 20 ไร่ขึ้นไปมีค่าใช้จ่ายแพงกว่า 5-20 ไร่ ตามลำดับ เพราะฉะนั้นคนจนไม่มีผลกระทบ ปัจจุบันกกหมายเสรีก็สามารถจดแจ้งปลูกแล้วมาปรุงยาให้คนไข้ได้

ทั้งนี้ วิสาหกิจชุมชนเกษตรอารมณ์ดี ปลูกกัญชาคุณภาพเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงยาที่จำเป็น อีกทั้งจะเป็นศูนย์เรียนให้กับผู้สนใจในการปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์ต่อไปในอนาคต