มุกดาหาร – ทหารพรานที่ 2110 สนธิกำลังหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 76,000 เม็ด ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านสงเปือย ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 65 เวลา 02.00 น. โดยการนำของ พ.อ.อุทัย นิลเนตร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พ.ต.อ. วิจิตร บุญวรรณ ผกก.สส.ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ได้บูรณาการด้านการข่าว ภายหลังได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดจากขบวนการค้ายาจากประเทศเพื่อนบ้านข้ามมายังฝั่งประเทศไทย ตามแนวชายแดนแม่น้ำโขง เข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วย เพื่อทำการลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนใน จึงได้สั่งการให้ ร.ท.วัชรสรณ์ เชื้อไพบูรณ์ ร้อย ทพ.2110 ฉก.ทพ.21 บูรณาการกำลังพลทหารพราน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าทำการซุ่มเฝ้าตรวจจุดเพ่งเล็ง,จุดล่อแหลม ริมฝั่งแม่น้ำโขง พื้นที่ บ้านสงเปลือย หมู่ 9 ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ซุ่มเฝ้าตรวจ จุดเพ่งเล็ง บริเวณในพื้นที่ที่ได้รับแจ้ง
ต่อมาเวลา 04.30 น. ได้ตรวจพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง จำนวน 1 คัน ขับขี่ลงมาบริเวณริมตลิ่งแม่น้ำโขง พื้นที่ บ้านสงเปือย หลังจากนั้นได้จอดรถทิ้งไว้แล้วได้เดินลงไปที่เรือพร้อมขับเรือออกจากฝั่งไทยมุ่งหน้าไปยังฝั่ง สปป.ลาว จนกระทั่งเวลา 05.30 น. ชุดซุ่มได้ตรวจพบเรือลำดังกล่าวไหลเรือมาจากฝั่ง สปป.ลาว แล้วมาจอดเรือที่บริเวณดังกล่าว ขณะเดินออกมาจากเรือพบชาย จำนวน 1 คน ถือวัตถุต้องสงสัยขึ้นมาจากเรือไปซุกซ่อนที่โพรงหญ้าบริเวณริมตลิ่งแม่น้ำโขง
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบพิสูจน์ทราบ จากการตรวจสอบ พบกระสอบปุ๋ย จำนวน 1 กระสอบ ซุกซ่อนอยู่ในโพรงหญ้า จึงเปิดพิสูจน์ทราบพบว่าเป็นยาบ้าห่อหุ้มด้วยกระดาษไขสีเหลือง จำนวน 38 มัด จึงได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาทำการที่กองร้อยทหารพรานที่ 2110 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 ผลการตรวจยึดจับกุมผู้ต้องสงสัยทราบชื่อ นายไหม คำจันทร์ อายุ 70 ปี บ้านเลขที่ 283 ม.7 บ.คำผักหนอก ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 38 มัด ประมาณ 76,000 เม็ด รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง(ซาเล้ง) ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ดรีม สีเขียว (ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน) จำนวน 1 คัน,โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ โนเกีย สีแดง จำนวน 1 เครื่อง และได้ประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมบูรณาการจับกุมตรวจยึดของกลางดังกล่าว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายไหม คำจันทร์ อายุ 70 ปี พร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป