ข่าวอัพเดทรายวัน

เพื่อไทยแลนด์สไลด์ ที่อีสานอีกแล้ว เลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ดใหม่ เศกสิทธิ์ จากพรรคเพื่อไทยชนะขาด

ด้วยศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ดใหม่แทนนายเอกภาพ พลชื่อ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2565 จากกรณี กกต.มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้ง (ใบแดง) เนื่องจากได้ปราศรัยใส่ร้ายนายมังกร ยนต์ตระกูล อดีตนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ปี 2563 และนายเอกภาพ พลซื่อชนะนายมังกร 6,000 คะแนน และเรื่องถูกส่งศาลอุทรภาค 4 ศาลได้พิพากษาให้เพิกถอนสิทธิ์นายเอกภาพ พลซื่อ เป็นเวลา 10 ปีพร้อมให้ชดใช้ค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งจำนวน 34 ล้านบาท และให้จัดการเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ดใหม่ ในวันที่ 25 กันยายน 2565

การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้สมัครชิงตำแหน่งจำนวน 4 คน แต่ที่ชิงชัยกันจริงๆมีอยู่ 3 คน คือ นางรัชนี พลซื่อ เบอร์ 1 (ผู้สมัครอิสระ) นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์เบอร์ 2 (พรรคเพื่อไทย) นางจุรีพร สินธุไพร เบอร์ 4 (ผู้สมัครอิสระ)โดยหมายเลข 1 นางรัชนี พลซื่อ เป็นอดีตนายก อบจ.ร้อยเอ็ด 1 สมัย เป็นภรรยาของนายเอกภาพ พลชื่อ นายก อบจ .ที่ถูกศาลอุทรณ์ภาค 4 ตัดสิทธิ์ทางการเมือง10 ปี ซึ่งนาบเอกภาพ ได้เคลื่อนไหวบนเวทีปราศรัย กับพี่น้องประชาชน ให้ความสงสาร เลือกภรรยาของตนเข้าไปทำหน้าที่นายก อบจ.เพื่อสานต่องานแทน

คู่ต่อสู้คนสำคัญคือนายเศกสิทธิ์ไวนิยมพงศ์ อดีด ส.ส.ร้อยเอ็ด 5 สมัย ผู้สมัครเลข 2 (ในนามพรรคเพื่อไทย )ที่มีฐานคะแนนเหนียวแน่นจากกลุ่มคนเสื้อแดง จากกลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทยร้อยเอ็ด และอยู่กับพรรคไทยรักไทย เพื่อไทยมาโดยตลอด

ขณะที่นาง จุรีพร สินธุไพร ผู้สมัครหมายเลข 4 อดีดรองนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นน้องสาว แท้ๆ ของนายนิสิต สินธุไพร อดีดแกนนำ
นปช.อดีดส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 5 พรรคเพื่อไทย ที่เคยเคลื่อนไหวให้กับพรรคพลังประชารัฐ ก่อนจะลาออกจากสมาชิกพรรค ลงสมัครชิงตำแหน่ง ในนามอิสระ

ผู้สมัครทั้ง 3 คน ต่างใช้กลยุทธลงพื้นที่หาเสียง และข่วงชิงฐานคะแนนจาก ผู้บริหารท้องถิ่น จาก ส.อบจ. สท. ส.อบต.และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ว่าใครคุมเสียงส่วนไหนได้มากกว่ากัน โดยเฉพาะ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยหวังได้กระแสพรรคที่กำลังมาแรง ให้ชนะขาด เกิดแลนด์สไลด์ เหมือนการเลือกตั้ง นายก อบจ.ที่ จ.กาฬสินธุ์ ก่อนหน้านี้

ข่าวคึกโครมก่อนวันเลือกตั้งทราบว่ามีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงกันสนั่นเมือง และเกิดคำพูดตามมาว่าระหว่างกระแส กับกระสุนหนัก ใครจะแน่กว่ากัน

อย่างไรก็ตามเสียงประชาชนส่วนใหญ่บอกว่า แม้ว่าจะมีผู้สมัครที่อาศัยปัจจัย หรือกระสุนในการซื้อสิทธิ์ขายเสียงอย่างหนักก็ตาม แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องตัดสินด้วยฐาน คะแนนนิยมและผลงานของตัวผู้สมัครเป็นสำคัญ และเชื่อว่าเงินซื้อเสียงคนร้อยเอ็ดไม่ได้

25 ก.ย.2565 หลังการปิดหีบและการนับคะแนนออกมาดังนี้
อันดับ 1 (เบอร์2)นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ จากพรรคเพื่อไทย ได้ 301,187 คะแนน
อันดับ 2 (เบอร์4)นางจุรีพร สินธุไพร ได้ 126,649 คะแนน
อันดับ3 (เบอร์ 1) นางรัชนี พลซื่อ ได้ 116,027 คะแนน
อันดับ 4 (เบอร์3) ได้ 5,306
คะแนน

การเลือกตั้งครั้งนี้จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 1,042.552 คน
มาใช้สิทธิ์ 576,017 คน คิดเป็นร้อยละ 55.25 บัตรดี 549,169ใบ คิดเป็นร้อยละ 95.34 บัตรเสีย 14,588 ใบ คิดเป็นร้อยละ 2.53 บัตรที่ไม่ประสงค์จะเลือกผู้ใด 12,260 ใบ
คิดเป็นร้อยละ 2.13 และในการเลือกตั้งครั้งนี้เบอร์ 2 นายเศกสิทธิ์ มีคะแนนนำชนะการเลือกตั้ง
จำนวน 19 อำเภอ จากทั้งหมด 20 อำเภอ ส่วนที่แพ้คือ อ.เมยวดี
แพ้รัชนี พลซื่อ เบอร์ 1 ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นได้ 6,613 คะแนน เศกสิทธิ์ เบอร์ 1 ได้ 2,415 คะแนน
(แพ้ 4,198 คะแนน)