ข่าวอัพเดทรายวัน

พลเอกประยุทธ์ กำชับเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ขอนแก่น ย้ำต้องบูรณาการทุกฝ่าย ขอความร่วมมือภาคเอกชนรวมพลังคนไทยช่วยชาติ-ช่วยประชาชน

วันที่ 4 ต.ค.2565 ที่ห้องประชุมท่าอากาศยานนานาชาติขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ร่วมให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำในภาพรวมของจังหวัดขอนแก่น โครงการชลประทานขอนแก่น บรรยายสรุปสถานการณ์น้ำในพื้นที่เขตอำเภอเมืองขอนแก่น โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดขอนแก่นบรรยายสรุปการแก้ไขปัญหาน้ำในพื้นที่ชุมชนเมือง

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวระหว่างรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดขอนแก่นว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ไม่ได้เป็นการมาตำหนิใคร แต่ต้องการมาช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด และขอให้ทุกฝ่ายพยายามเยียวยาอย่างทั่วถึง ทั้งนี้แนวทางการแก้ปัญหามีแผนงานโครงการของทุกจังหวัดอยู่แล้ว ซึ่งหลายโครงการมุ่งดำเนินการให้แล้วเสร็จในปี 2565 และบางโครงการมุ่งให้สำเร็จในปี 2566 พร้อมย้ำว่าการระบายน้ำในพื้นที่และการพร่องน้ำต่างๆจะต้องบูรณาการไม่ให้เกิดผลกระทบกับ ประชาชน ซึ่งภาพรวมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางพื้นที่น้ำมาก บางพื้นที่น้ำน้อย ดังนั้นจะต้องมาพิจารณาหาแนวทาง เพื่อให้ได้ประโยชน์ร่วมกันในเรื่องของการกักเก็บน้ำ

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวอีกว่า ทั้งนี้หากยังมีฝนตกในปริมาณมากกว่าที่จะระบายน้ำได้ทัน ก็ยังจะมีปัญหาอยู่เช่นนี้ และไม่ใช่การแก้ตัว แต่เป็นข้อเท็จจริง ซึ่งจะต้องหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด หากอะไรที่สามารถป้องกันได้ก็ให้ดำเนินการไป เช่น การปกป้องโรงพยาบาล พื้นที่เศรษฐกิจ แต่หากเรื่องไหนทำไม่ได้ก็ต้องหาวิธีการแก้ไข เพื่อให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรักษาพยาบาล อาหาร น้ำสะอาดและพื้นที่พักพิง

“ทั้งนี้มีการแก้ปัญหาต้องสรุปและแบ่งเป็นกลุ่มในการเยียวยาให้ทั่วถึง เช่นกลุ่มเกษตรกร ภาคธุรกิจ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมย้ำว่าในฐานะนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลได้สั่งการให้เตรียมการไว้นานแล้ว เพราะคาดการณ์อยู่แล้วว่าจะเกิดขึ้น”

จึงขอให้ทุกหน่วยงาน ทุกคน ทุกเหล่าทัพ ดำเนินการให้เร็วที่สุดในทุกพื้นที่ รวมถึงขอความร่วมมือภาคธุรกิจเอกชนเข้ามาช่วยในเรื่องของอาหาร อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ เพื่อเป็นการช่วยชาติช่วยประชาชน และนั่นคือสิ่งที่จะรวมพลังคนไทยทั้งหมด และจะสามารถแก้ได้ทุกปัญหา มากบ้างน้อยบ้าง เร็วบ้างช้าบ้าง นั่นคือประเทศไทยหากไม่ทำเช่นนี้ก็จะแก้ไขไม่ได้ ถือว่าไม่ใช่ผลงานของใครคนใดคนหนึ่ง”

ซึ่งหลังจากฟังบรรยายสรุปเรียบร้อย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่เดินทางไปยังสถานีสูบน้ำบึงหนองโคตร ตำบลบ้านเป็ด ตรวจสถานการณ์น้ำในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบที่บึงหนองโคตร รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์และแผนการปฏิบัติในการพร่องน้ำออกจากพื้นที่เศรษฐกิจเมืองขอนแก่น โดยการพร่องน้ำออกจากบึงหนองโคตร อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง เป็นแก้มลิงขนาดใหญ่รับน้ำในพื้นที่ชุมชนเศรษฐกิจตัวเมืองขอนแก่น โดยผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 6 ขอนแก่น นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเป็ด บรรยายสรุปสถานการณ์น้ำในพื้นที่เทศบาลตำบลบ้านเป็ด

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่พบปะผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรเสียหาย พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัยจากลำน้ำพอง เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วม จำนวน 500 ชุด ที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดขอนแก่น ตำบลโคกสี อำเภอเมืองขอนแก่น และเดินทางต่อไปยังวัดเทพนิมิตรวนาราม บ้านพรหมนิมิตร หมู่ 4 ตำบลโคกสี พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยและพระสงฆ์ที่ประสบภัย จำนวน 30 ชุด

โดย จากการที่จังหวัดขอนแก่น ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้เกิดอุทกภัย น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน พื้นที่การเกษตร สิ่งสาธารณประโยชน์ สะพาน คอสะพาน ถนนหลายสาย จังหวัดขอนแก่นได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือแล้ว 16 อำเภอ 144 ตำบล 1,082 หมู่บ้าน 105 ชุมชน ซึ่งปัจจุบันยังมีสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่
ขณะนี้จังหวัดขอนแก่น มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 16 อำเภอ ซึ่งสถานการณ์คลี่คลายไปแล้วบางส่วน แต่ที่ยังมีสถานการณ์อยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะชุมชนริมแม่น้ำชีและแม่น้ำพอง ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะชุมชนริมตลิ่งซึ่งจะทำให้มีน้ำท่วมนานประมาณ 1 เดือนครึ่ง ขณะนี้จังหวัดขอนแก่น ได้ตั้งจุดอพยพประชาชนขึ้น 8 จุด ใน 2 อำเภอ ซึ่งหลังจากเสร็จภารกิจที่จังหวัดขอนแก่น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ก็จะเดินทางไปที่จังหวัดอุบลราชธานี ต่อไป