ข่าวอัพเดทรายวัน

บุรีรัมย์ญาติไม่พอใจ รพ.บริการล่าช้าปล่อยรอหลาย ชม.แถมพูดประชดคนไข้ ด้าน สสจ.จี้ตรวจสอบพร้อมปรับปรุง

ญาติโพส์ตไม่พอใจ รพ.ประจำอำเภอ ที่จ.บุรีรัมย์ ให้บริการล่าช้าปล่อยคนไข้รอหลาย ชม. จนนั่งไม่ไหวต้องฟุบกับเก้าอี้ แถม จนท.ยังพูดประชดทนมาได้ 3 วันแล้วรออีกหน่อยคงไม่เป็นไร แต่พอหมอมาถึงเรียกเข้าไปตรวจจริงไม่ถึงนาที สุดท้ายได้แค่ยาลดไข้แก้อักเสบมากิน สสจ.จี้ ผอ.รพ.ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อเร่งแก้ไขปรับปรุงระบบทั้งการบริการและสื่อสาร ไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำ

(8 ต.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ “รัชดา ก้อย แซ่อึง” ได้โพส์ตข้อความในลักษณะไม่พอใจกับการให้บริการของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยระบุว่า “พาหลานมาหาหมอตั้งแต่ 6 โมงเช้า อาการหลานหนาวสั่น บอกนายไม่ไหวแล้ว มาถึงไม่มีหมอสักคน เห็นแค่คนเข็ญเปล เลยถามพี่คะหมอมากี่โมงคะ เขาก็ตอบมา 8-9โมงคับ เขาถามน้องเป็นมากี่วัน เราตอบ 3 วันคะ เขาเลยตอบกลับมาว่าทนมา3วันแล้วงั้นก็ทนต่อไป 3วันแล้วยังทนได้ ขอบคุณมากๆค่ะ ตอบมาได้ไง เราเลยหันมาบอกหลาน งั้นเอ็งก็ตายก่อนแล้วกันหมอมาค่อยตื่นหาหมอ นานเรารอได้นะ ไม่ว่า แต่คำพูดที่ได้ยินมามันไม่น่าฟัง ป่านนี้ก็ยังไม่กลับ บัตรคิวที่1นะ แจ๋วมาก” หลังจากโพส์ตดังกล่าวถูกแชร์ออกไปก็มีคนเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก หลายคนบอกว่าเคยโดนแบบนี้เหมือนกัน จนบางคนต้องเปลี่ยนไปรักษาที่ รพ.อื่น แม้จะเดินทางไกลกว่า
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามรายละเอียดกับผู้โพส์ต คือ น.ส.จรรยาภรณ์ แป้นประโคน หรือก้อย อายุ 34 ปี พร้อมกับหลานชายและหลานสาวซึ่งเป็นผู้ป่วยที่ไปรับบริการในวันดังกล่าวมาให้ข้อมูลด้วย โดย น.ส.ก้อย บอกว่า เรื่องราวที่ตนเองโพส์ตเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (7ต.ค.65) ซึ่งตนเองได้พาหลาน 2 คน คือนายเติ้ล (นามสมมติ) อายุ 17 ปี หลานชายซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.6 ซึ่งมีอาการไข้สูงหนาวสั่นและมีหนองในหู และ น.ส.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี หลานสาวซึ่งเรียนอยู่ ม.3 เป็นไข้น้ำมูกไหลไอเจ็บคอ ไปหาหมอที่ รพ.พลับพลาชัย ไปถึง รพ.ประมาณ 6 โมงเช้า แต่ไม่มีหมอสักคน มีแค่พนักงานเปลผู้ชาย 1 คน ตนจึงเดินไปถามว่าหมอจะมากี่โมง เขาก็ตอบว่ามา 8-9โมง แล้วเขาก็ถามว่าน้องเป็นอะไร เป็นมากี่วันแล้วตนก็ตอบไปว่า 3 วันแล้ว พนักงานเปลคนดังกล่าวกลับพูดว่าเป็นมา 3 วันแล้วยังทนไหวก็ทนต่ออีกคงไม่เป็นไร ตนก็รู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของ จนท.คนดังกล่าว เพราะตอนนั้นหลานชายก็บอกว่าผมทนไม่ไหวถึงกับนอนฟุบกับเก้าอี้ จากนั้นก็รอจนถึง 4 โมงเช้าถึงได้คิวเข้าตรวจทั้งที่หลานเป็นคิวแรก พอตรวจเสร็จหมอให้นั่งรอรับยาต่อจนถึงเที่ยง แล้วที่นำเรื่องราวมาโพสต์เพราะอยากให้ปรับปรุงแก้ไขการบริการ มองว่า รพ.ควรจะมีหมอเข้าเวรประจำเผื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินอะไรเกิดขึ้น และ จนท.ไม่ควรใช้คำพูดประชดหรือตะคอกใส่คนไข้ที่เขาเจ็บป่วยแล้วหวังมาเพิ่งหมอ
ขณะที่นายเติ้ล ก็บอกว่า ตนเริ่มมีอาการไข้มา 3 วันแล้วแต่ยังไม่หนักมาก กระทั่งเช้าของวันที่ 7 ต.ค.ก็ไปบอกน้าว่ารู้สึกไม่ไหวเพราะไข้สูงหนาวสั่น น้าจึงรีบพาไปหาหมอ แต่พอไปถึง รพ.ตอน 6 โมงเช้าก็ไม่มีหมอสักคน ต้องรอหลายชั่วโมงจนนั่งไม่ไหวต้องฟุบลงกับเก้าอี้ กระทั่งประมาณ 10 โมงมีผู้ป่วยพยาบาลคนหนึ่งเรียกไปแล้วถามว่าไหนบัตรตรวจเลือด แล้วตะคอกใส่ตนเองว่าบัตรตรวจเลือดอยู่ไหน แต่พอถึงคิวเข้าไปตรวจกับหมอ ก็ใช้เวลาตรวจจริงๆ ไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ แล้วให้นั่งรอรับยาต่ออีกจนถึงเที่ยง ตนจนบอกกับน้าว่าไม่อยากรอรับยาแล้วเพราะรู้สึกว่าตัวเองนั่งไม่ไหวแล้ว แต่สุดท้ายพอได้ยาก็ได้แค่ยาแก้ไข้และแกอักเสบมากิน ถ้ารู้ว่ารอนานขนาดนี้คงให้น้าซื้อยาที่ร้านให้กินแล้ว

ด้านนายแพทย์พิเชษฐ พืชขุนทด นายแพทย์สาธารณสุข จ.บุรีรัมย์ ระบุว่า หลังจากรับทราบเรื่องที่มีการโพสต์ในสื่อโซเชียล ก็ได้สั่งการให้ ผอ.รพ.พลับพลาชัย ที่ถูกระบุถึง ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเกิดจากประเด็นอะไร ทำไมถึงเกิดปัญหา มีปัญหาที่กระบวนการไหน การสื่อสารเป็นยังไง เมื่อได้ข้อมูลว่าเกิดปัญหาที่จุดไหน ก็ให้ปรับปรุงแก้ไขภายในองค์กรเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีก และให้ไปสอบถามพูดคุยกับญาติหรือผู้ป่วยที่มารับบริการที่เกิดประเด็น ว่ามีจุดตรงไหนที่ต้องการให้ทาง รพ.แก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อจะได้นำไปพัฒนาปรับปรุงด้านการให้บริการในระดับพื้นที่ จากนั้นให้สรุปผลรายงานมายังทางสาธารณสุขจังหวัดได้รับทราบต่อไป ซึ่งทางสาธารณสุขไม่ได้นิ่งนอนใจเมื่อทราบเรื่องก็รีบให้ผู้บริหารในพื้นที่ดำเนินการอย่างเร่งด่วน